FullReview | HUAWEI FreeBuds Pro 3 หูฟังไร้สายขั้นเทพ !!! รองรับระบบตัดเสียงรบกวนแบบใหม่ ANC 3.0 และ ลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound + Hi-Res Audio !!!!


HUAWEI ได้ประกาศเปิดตัว FreeBuds Pro 3 รุ่นใหม่ ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมีไดรเวอร์ Quad-Magnet Dynamic และเทคโนโลยี planar diaphragm ซึ่งเป็นรายแรกในโลก มี ANC ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 50% โดยมอบคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ที่ผ่านการรับรองทั้ง HWA และ Hi-Res Wireless Dual HD Audio ด้วยระบบลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound ใช้เทคโนโลยี cross-over ที่หัวเว่ยพัฒนาซาวด์เอฟเฟกต์อัลกอริธึมขึ้นมาด้วยตัวเอง

ที่ต้องเล่ายาวเพราะ HUAWEI เขาใส่มาเยอะจริงๆ แต่ถ้าจะเล่ายาวกว่านี้จะไม่ได้เข้าเนื้อหารีวิวจริงๆซักที ดังนั้นไปดูกันดีกว่าว่าที่เหลือจะมีอะไรบ้างครับ


Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

- ชุดหูฟัง​ Huawei Freebuds​ Pro
- Ears Tip 4 คู่ 4 ขนาด
- สายชาร์จแบบ​ USB Type - C
- คู่มือ


สเปค HUAWEI FreeBuds Pro 3

Bluetooth 5.2, LDAC Hi-Res codec, การเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมกันกับอุปกรณ์สองเครื่อง

Quad Magnet 11 มม. Dynamic Driver ตอบสนองความถี่ 14-48 Hz

Triple adaptive equalizer

Ultra-low latency ความหน่วงต่ำสำหรับการเล่นเกม

เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid Active พร้อมไมโครโฟน 3 ตัว สำหรับช่องหูประเภทต่างๆ

Dynamic ANC อัจฉริยะ - โหมดไดนามิค , โหมดอัลตร้า , โหมดโคซี่ และโหมดทั่วไป

6m/s Anti-wind Noise reduction

กันฝุ่นและกันน้ำ มาตราฐาน IP54

แบตเตอรี่ 55 mAh รองรับการฟัง 4.5 ชม. (เปิด ANC) / 6.5 ชม. (ไม่เปิด ANC)

แบตเตอรี่ 510 mAh (เคสชาร์จ) รองรับการฟัง 31 ชม. (ไม่เปิด ANC) / 22 ชม. (เปิด ANC)

รองรับ Fast Charge และ Wireless Charging


Design & Features

HUAWEI Freebuds Pro 3 ยังคงทำออกมาได้ดีในแง่ดีไซน์ และนอกจากการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิ่งสำคัญคือต้องใช้งานได้อย่างสะดวกสบายสำหรับการฟังเพลงที่ยาวนาน โดยมีการออกแบบ​ ที่สวมใส่สบาย​ มีไดร์เวอร์แบบไดนามิกความไวสูง พร้อมการออกแบบเฉพาะที่ให้ความคมชัดและลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีเยี่ยม

มาพร้อมกับกล่องชาร์จทรงรี ออกแบบสมมาตร​ ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต​ เคลือบผิวทราย พร้อมพอร์ตชาร์จแบบ USB Type - C สำหรับการชาร์จเร็ว​ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Qi และสามารถใช้การชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ (Reverse Charging) บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย

โดยตัวเคสชาร์จได้รับการปรับปรุง มีการออกแบบบานพับแบบซ่อนตัวแรกของอุตสาหกรรม และการออกแบบกระจกชิ้นเดียว (one-piece mirrored glass) ตัวเรือนผ่านการทดสอบแบบเปิด-ปิดกว่า 100,000 ครั้งทำให้มั่นใจได้ถึงความทนทาน และความทนทานต่อการขีดข่วนเพิ่มขึ้น 32%

ด้านหน้ามีเเผ่นโลหะ​สลักโลโก้​ Huawei​

ด้านข้างซ้ายมีปุ่ม​สำหรับกดเพื่อเริ่มการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างกลืนไปกับผิวของตลับมากๆ​ ด้านขวาปล่อยโล่งๆไว้​ 

ส่วนด้านล่างจะเป็นที่อยู่ของพอร์ต​ USB Type -​ C และ ลำโพงสำหรับใช้ร่วมกับฟีเจอร์ค้นหาเคสชาร์จ (รออัปเดตในอนาคตเพื่อเปิดใช้งาน)

ส่วนหูฟังของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 5% โดยมีน้ำหนักเพียง 5.8 กรัม (±0.3 กรัม) ต่อชิ้น ซึ่งเบากว่าเหรียญเดียว การออกแบบร่องใหม่บนก้านทำให้ควบคุมได้ง่าย รองรับการกันน้ำระดับ IP54 ช่วยปกกันเหงื่อและละอองน้ำได้

จุกหูฟังทำจากวัสดุซิลิโคนเกรดอาหารไม่ระคายเคลืองผิวหนังทั้งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปผ่านการทดสอบและการทดลองหลายครั้ง ตรงตามมาตรฐาน FDA และ LFGB จึงมั่นใจในความปลอดภัยและความสะดวกสบายสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ตอนนี้ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ยังมีจุกใหม่ขนาด XS ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นสำหรับผู้ที่มีหูชนาดเล็ก

ตัวก้านหูฟังนั้นถูกออกแบบสรีระศาสตร์ ที่กระชับและใส่สบายกว่าหูฟังทั่วไป​ ส่วนชุดไดรเวอร์เป็นทรง​ Close Fit​ หรือ​ In buds ที่รองรับ​ Active Noise Canceling

ซิลิโคนที่สอดเข้าไปในช่องหู มีการออกแบบได้ดี และไม่พบว่าหูของเราเจ็บ หลังจากทดลองฟังเพลงไปประมาณสอง ถึง สามชั่วโมง เหมือนที่เคยฟังกับตัวอื่นๆ

เมื่อเปิดฝาออกมา​ จะพบตัวก้านหูฟังถูกจัดเก็บไว้ในแนวตั้ง​ โดยตรงกลางจะมีไฟ LED บอกสถานะของแบตเตอรี่อยู่

ตัว Ear Buds มีไมโครโฟนที่หันเข้าด้านในและหันหน้าออกไปด้านนอกสำหรับตรวจจับเสียงรบกวน โดยไดรเวอร์แบบไดนามิกจะสร้างสัญญาณป้องกันเสียงรบกวนที่แม่นยำซึ่งมีเอฟเฟกต์การตัดเสียงรบกวนสูงถึง 47 dB

นอกจากนี้ยังมี ระบบ 3 ไมค์ และ Bone Voice Sensor เพื่อลดเสียงพื้นหลังและเพิ่มเสียงของมนุษย์สำหรับการโทรที่คมชัด

ในระหว่างการโทร Bone Voice Sensor จะตรวจจับและเพิ่มความคมชัดให้กับเสียงของมนุษย์โดยตีความการสั่นสะเทือนของกระดูกเพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจน

มาพร้อมกับที่อุดหูซิลิโคนแบบนิ่มใน 4 ขนาด และคุณสมบัติการตรวจจับความกระชับอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับแอพ AI life เพื่อวิเคราะห์ที่อุดหูที่พอดีกับหูของคุณหลังจากสวมใส่ เพื่อให้คุณสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพลิดเพลินกับการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น  และเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น

Ultra-hearing dual-drive

HUAWEI FreeBuds Pro 3 มาพร้อมกับไดรเวอร์ Dual-Hearing แบบ Ultra-Hearing ซึ่งประกอบด้วยยูนิตคอยล์ไดนามิกแม่เหล็กสี่อันอันเพื่อแรงขับเคลื่อนเสียง และยูนิตเสียงแหลมไมโครระนาบสำหรับการควบคุมความถี่ต่ำลงไปที่ 14Hz ในขณะที่ความถี่สูงถึง 48kHz มอบประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มด้วยเสียงเบสและรายละเอียด นอกจากนี้ เอียร์บัดยังรวมอาร์เรย์แม่เหล็ก Halbach ใหม่ไว้ภายในการตั้งค่าไดรเวอร์คู่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับส่งข้อมูลชั่วคราวที่สูงเป็นพิเศษ ให้เสียงแหลมใสคมชัดทุกคลื่นความถี่, เสียงร้องและดนตรีอย่างชัดเจน มีจุดเด่นการหูฟังอื่นๆที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะระหว่างเครื่องดนตรีต่างๆ ในเพลงได้

Updated Triple Adaptive EQ

เนื่องจากความแตกต่างระหว่างโครงสร้างช่องหู สภาพการสวมใส่ และการตั้งค่าระดับเสียง ประสบการณ์ทางดนตรีจึงอาจแตกต่างกันในแต่ละคน  เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ใช้ประโยชน์จากความสามารถในการคำนวณอันทรงพลังเพื่ออัพเกรดอัลกอริธึมการเพิ่มประสิทธิภาพการได้ยินแบบเรียลไทม์สามารถปรับให้เสียงเข้ากับคูณโดยการปรับ 3 ปัจจัยได้แก่ เพื่อให้เสียงที่ดีที่สุด ดังนี้

EQ ที่ปรับได้ตามรูปร่างสรีระของหูที่แตกต่างกัน
EQ ปรับตามสภาพแวดล้อมที่เราสวมใส่ในใบหู
EQ ตามระดับเสียงที่แตกต่างกัน

Intelligent Dynamic ANC 3.0

อัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวนแบบปรับได้ของ AI รวมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบไฮบริดแบบสามไมค์

การตัดเสียงรบกวนจะต้องชาญฉลาด การตัดเสียงรบกวนมากเกินไปในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบอาจทำให้เกิดเสียงคลื่นรบกวนระหว่างการฟังเพลง ในขณะที่การตัดเสียงรบกวนไม่เพียงพอในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังไม่สามารถให้ประสบการณ์การฟังที่ชัดเจนได้

HUAWEI FreeBuds Pro 3 เจเนอเรชันใหม่ยกระดับสิ่งนี้ขึ้นไปอีกระดับด้วย Intelligent ANC 3.0 ที่อัปเกรดแล้ว คุณสมบัตินี้นำเสนอการตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ อัลกอริธึมได้รับการปรับปรุงโดยก้าวข้ามข้อจำกัดของโหมดพรีเซ็ตสามโหมด ผสมผสานการตัดเสียงรบกวนตามโหมดและแบบเรียลไทม์ โดยใช้การคำนวณที่แม่นยำแบบเต็มเวลาและความถี่เต็ม ช่วยให้เอียร์บัดสามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางเสียงที่แตกต่างกันและสถานะการสึกหรอของผู้ใช้ โดยปรับแต่งพารามิเตอร์การตัดเสียงรบกวนได้ มันเหมือนกับการตัดเย็บเสื้อผ้าตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน เพื่อให้มั่นใจว่าสวมใส่ได้พอดีและประสบการณ์การตัดเสียงรบกวนที่ปรับแต่งได้ในสถานการณ์ต่างๆ

Pure Voice 2.0
เพื่อประสบการณ์การคุยสายที่ชัดเจน

ยกระดับฟีเจอร์ Pure Voice ไปสู่อีกระดับหนึ่งเพราะ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ใช้อัลกอริธึมการตัดเสียงรบกวน Deep Neural Network (DNN) หลายช่องสัญญาณที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Huawei สำหรับการโทร ซึ่งเป็นการอัพเกรดที่สำคัญจาก DNN ช่องเดียวในรุ่นก่อนหน้า อัลกอริธึม DNN แบบหลายช่องสัญญาณในการแบ่งส่วนย่านความถี่เมื่อรวมกับเทคโนโลยีไดนามิกฟิวชั่น AI จะช่วยให้การตัดเสียงรบกวนที่แม่นยำยิ่งขึ้นในย่านความถี่ต่างๆ ซึ่งจะรักษารายละเอียดเสียงได้มากขึ้นและปรับปรุงความต้านทานเสียงรบกวนได้ 5dB ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟใต้ดิน และสนามบิน ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์เสียงที่ชัดเจนสำหรับผู้บริโภค


การใช้งาน

เบื้องต้นเราต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่น​ Huawei AI Life ซึ่งสามารถหาดาวน์โหลดได้จาก​ HUAWEI App Gallery เพื่อทำการเชื่อมต่อและปรับตั้งค่าหูฟัง​ 

พอติดตั้งเสร็จ​ เปิดแอพขี้นมา​ ให้ดูที่มุมขวาบน​ แล้วกดเครื่องหมาย​ + และกด​ Add Device จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนไม่นานก็เป็นอันเสร็จสิ้น

หน้าแรกที่เข้ามาจะพบกับ สถานะการเชื่อมต่อ​, ระดับแบตเตอรี่ในหูฟังทั้ง​ 2 ข้างและตัวเคสชาร์จ

ตัวก้านหูฟังรองรับ​ Touch Gesture Control ทั้ง​ 2 ข้าง​ โดยเราสามารถตั้งค่า​ Shortcuts ได้ว่า หาก

บีบ​ 1 ครั้ง​ 2 ครั้ง​ หรือ​ 3 ครั้ง​ บีบค้าง​ ให้ทำอะไร, แตะ​สองครั้ง​ (Double Tap) จะให้ทำงานอะไร​ โดยมีตัวเลือกได้แก่​ เล่นเพลง, หยุดเพลง, ข้ามเพลง, เรียก​ Voice Assistant​ และ เปิดหรือปิด​ Noise Canceling​ หรือ​ สไลด์เพื่อสั่งเพิ่มและลดระดับเสียงได้​ ซึ่งมีประโยชน์มาก

พร้อมกับใช้การทดสอบการตรวจจับ “Tip Fit” ซึ่งจะตรวจสอบว่าเอียร์บัดพอดีกับหูของคุณหรือไม่

ในแง่ของคุณสมบัติเพิ่มเติม สิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่สังเกตเห็นคือ FreeBuds 3 Pro สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องในเวลาเดียวกัน  ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังดูวิดีโอบนแล็ปท็อป จากนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น  เสียงของวิดีโอที่เล่นบนแล็ปท๊อปหยุดลง และเราจะได้ยินเสียงเรียกเข้าในหูแทน 


คุณภาพเสียง

ชิป Kirin ซึ่งเป็นชิป AI ที่สนับสนุนในการเชื่อมต่อของ HUAWEI Freebuds 3 Pro รวมถึงการจัดการพลังงาน และที่สำคัญคือ ระบบตัดเสียงรบกวน ที่จะแยกการปิดกั้นเสียงตามความถี่ต่ำ และจะปรับการตัดเสียงให้ลดลงในย่านความถี่สูง เช่น เสียงแตรรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยยามสวมใส่บนท้องถนน​ นั้นถือเป็นจุดแข็งของ​ HUAWEI Freebuds​ Pro 3 เป็นอย่างมาก


ระบบ​ Active Noise Cancelling 3.0

HUAWEI FreeBuds 3 Pro เป็นหูฟังไร้สายที่ให้เสียงดีที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ชัดเจน, สมดุล และ มีเบสที่ทรงพลัง ให้ประสบการณ์ระดับพรีเมียมพร้อมเสียงที่ยอดเยี่ยม ฃฃ

HUAWEI FreeBuds 3 Pro มีการตัดเสียงรบกวนและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม  นอกจากนี้​ Wind Shild หรือการป้องกันลม ก็ทำออกมาได้​ดี และเสียงสนทนาจากปลายสายก็สามารถฟังเรารู้เรื่อง​ แม้อยู่ในที่ๆมีลมแรงๆ

HWA and Hi-Res Dual HD
Audio Certifications

เมื่อพูดถึงคุณภาพเสียง สิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือตัวแปลงสัญญาณที่ใช้ ได้แก่ ตัวแปลงสัญญาณเสียงบลูทูธชั้นนําของอุตสาหกรรม LDAC และ L2HC 2.0 (พัฒนาโดย Huawei) อัตราการส่งผ่านเสียงถึง 990 kbps และอัตราการสุ่มตัวอย่างถึง 96 kHz / 24 บิต ซึ่งมีความหมายว่า สามารถรับสัญญาณเสียงจากวิดีโอได้ดีขึ้น 3 เท่า รายละเอียดของเสียงที่ได้ยิน เช่น เสียงของเครื่องดนตรีก็ดีขึ้น 3 เท่า ช่วยให้ได้เสียงที่คมชัดแยกรายละอียดของหลายๆ เสียงที่ซ้อนกันมาอย่างดีเยียม

โดยรวมแล้วเราประทับใจมากกับคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนที่ใช้งานได้จริงของ FreeBuds 3 Pro อย่างมากครับ


แบตเตอรี่

รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้อีก 2.5 ชั่วโมง และใช้งานได้นานสูงสุด 31 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จและปิดโหมด ANC และยังรองรับชาร์จไร้สายด้วย

เมื่อแบตเต็มสามารถฟังได้นานสูงสุด 31 ชั่วโมง และสูงสุด 6.5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนั้น ยังรอบรับระบบชาร์จไร้สายด้วย

หูฟังอย่างเดียว
ระยะเวลาการเล่นเพลง:

ประมาณ 6.5 ชั่วโมง (เมื่อปิดใช้งาน ANC)
ประมาณ 4.5 ชั่วโมง (เมื่อเปิดใช้งาน ANC)

เมื่อใช้งานร่วมกับเคส
ระยะเวลาการเล่นเพลง:

ประมาณ 31 ชั่วโมง (เมื่อปิดใช้งาน ANC)
ประมาณ 22 ชั่วโมง (เมื่อเปิดใช้งาน ANC)

ระยะเวลาชาร์จเต็ม: 40 นาที

การจำหน่าย

HUAWEI FreeBuds Pro 3 มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์สุดหรูหรา ได้แก่ เขียว (Green), เทา (Silver Frost), ขาว (Ceramic White)

💵 วางจำหน่ายในประเทศไทย ที่ราคา 6,999 บาท โดยจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 12 ธันวาคม รับของแถมเป็นกระเป๋าหูฟังมูลค่า 599 บาท ฟรี

🛒 ไปกดใส่ตะกร้ารอกันไว้ก่อนได้ที่ :

https://shp.ee/2egb4gs

สรุป

HUAWEI Freebuds​ 3 Pro เป็นชุดหูฟังไร้สายที่มีคุณสมบัติคุ้มค่าเกินราคาไปไกลมากครับ​ จัดเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆในตลาดหูฟังไร้สายแบบ​ Truely Wireless​ ในตอนนี้​ ด้วยดีไซน์ที่สวยหรู​ และฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนแบบใหม่​ ถือว่าครบตอบโจทย์สุดๆครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้

#HUAWEI #HUAWEITH #HuaweiThailand #TWS
#HUAWEIFreeBudsPro3 #WorldITToday

Comments