FullReview | Redmi Watch 4 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ หน้าจอใหญ่ 1.97 นิ้ว , แบตอึด 20 วัน , กันน้ำ 5ATM พร้อมโหมดออกกำลังกายกว่า 150 รูปแบบ !!!! และ หูฟังไร้สาย Redmi Buds 5 ลดเสียงรบกวนสูงสุดได้ถึง 46dB !!!

Redmi ได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์สุดคุ้มรุ่นใหม่ Redmi Watch 4 ซึ่งมีจุดเด่นครบครัน คือ จอแสดงผลขนาดใหญ่ พร้อมหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกเปลี่ยนได้มากกว่า 200 แบบ , โหมดติดตามการออกกำลังกายกว่า 150 โหมด , ฟีเจอร์ตรวจวัดสุขภาพที่ครอบคลุม , รองรับการโทรบลูทูธ และ มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 20 วัน ในราคาเพียง 3,690 บาท แต่ที่ว่ามานี้ยังไม่ใช่คุณสมบัติทั้งหมดนะ เราลองไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง

สเปค Redmi Watch 4

จอแสดงผล LCD ขนาด 1.97 นิ้ว , ความละเอียด 390 × 450 พิกเซล , ความสว่างสูงสุด 600 nits
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว
รองรับการกันน้ำระดับ 5ATM
เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
เซนเซอร์วัดค่าออกซิเจนในเลือด
เซ็นเซอร์วัดความเร่ง (3-axis Accelerometer)
แบตเตอรี่ : อายุใช้งานสูงสุด 20 วัน + Magnet Charging
ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android 6.0 ขึ้นไป และ iOS 12 ขึ้นไป
น้ำหนัก 31.5 กรัม (รวมสาย)

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

Redmi Watch 4 × 1 เรือน
สายชาร์จ Magnet × 1 เส้น
คู่มือ × 1 เล่ม

Display & Design

Redmi Watch 4 มาพร้อมจอแสดงผล LCD ขนาด 1.97 นิ้ว ความละเอียด 390 × 450 พิกเซล  , ความสว่างสูงสุด 600 nits ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก และมีสีสันที่จัดว่าสวยงาม ความลื่นไหล 60Hz

ตัวเรือนมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสุดคลาสสิค ทำจาก วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์ (aluminum alloy middle frame)

ด้านหลัง มีเซ็นเซอร์วัดสุขภาพ และ พินทองแดง 2 จุด สำหรับสายชาร์จแบบแม่เหล็ก

ตัวสายเป็นแบบยางฟลูออรีน มีสลักสำหรับปลดสายนาฬิกาทั้ง 2 ด้าน จึงสามารถเปลี่ยนสายได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ

ขอบตัวเรือนด้านซ้าย มาพร้อมเม็ดมะยม ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟน

ขอบด้านขวา มีลำโพงติดตั้งไว้

โดยรวมแล้ว Redmi Watch 4 ให้การสวมใส่ที่สบาย ด้วยตัวเรือนน้ำหนักเบา สายรัดที่ใช้วัสดุอ่อนนุ่ม เสริมด้วยดีไซน์รูปลักษณ์ที่ดูหรูหราพรีเมี่ยมเกินราคา

ฟีเจอร์การใช้งาน

รองรับหน้าปัดกว่า 200 รูปแบบ

Redmi Watch 4 มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกามากกว่า 200 แบบ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการแต่งกายในแต่ละวัน หรือบ่งบอกความเป็นตัวเอง โดยการติดตั้งและเชื่อมต่อผ่านแอป Mi Fitness บนสมาร์ทโฟน

UI/UX สวยงาม ใช้งานง่าย

มอบประสบการณ์การใช้งานที่คมชัดทุกเม็ดสี ด้วยการออกแบบ UI/UX ใหม่ ของ HyperOS 

ที่แสดงรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้นช่วยให้คุณดูทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่การแจ้งเตือนข้อความไปจนถึงข้อมูลการออกกำลังกาย

รองรับการแจ้งเตือนภาษาไทย

โหมดการออกกำลังกายมากกว่า 150 รูปแบบ

Redmi Watch 4 สามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 150 รูปแบบ ครอบคลุมทุกชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก และสามารถติดตามการออกกำลังกายระดับมืออาชีพได้ 10 โหมด ไม่ว่าจะเป็น การวิ่งกลางแจ้ง, การใช้เครื่องวิ่ง, การปั่นจักรยานกลางแจ้ง, การเดิน, การเดินป่า, การวิ่งเทรล, การปีนเขา, การเดินบนเครื่องวงรี, เครื่องกรรเชียงบก และ กระโดดเชือก

พร้อมเซ็นเซอร์ในตัวและอัลกอริทึมกีฬาระดับมืออาชีพที่สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ร่างกายของคุณเมื่อคุณเล่นกีฬาสุดโปรดของคุณในทันที 

และมี GPS ในตัว พร้อมกับชิป GNSS  ที่สามารถติดตามระยะการวิ่งได้ด้วย

ดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายของคุณพร้อมกันอย่างรอบด้าน

Redmi Watch 4 สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง โดยตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจอยู่เสมอ การแจ้งเตือนจะถูกส่งไปถึงคุณเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจของคุณขึ้นสูง จึงเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เพื่อให้คุณได้รู้เกี่ยวกับสภาพร่างกายของตนเอง โดยเซ็นเซอร์ตรวจวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะทำการแจ้งเตือนคุณเมื่อระดับออกซิเจนในเลือดนั้นต่ำลง

นอกจากนี้ Redmi Watch 4 ยังสามารถตรวจสอบการนอนหลับตามหลักวิทยาศาสตร์ ช่วยบันทึกระยะเวลาและสภาวะในการนอนหลับได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น ระยะหลับลึก หรือ ระยะกึ่งหลับกึ่งตื่น พร้อม ติดตามระดับออกซิเจนในเลือด และอัตราการเต้นของหัวใจ ตลอดทั้งคืน และ มีการแนะนำเพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับในคืนต่อๆไปด้วย โดยสามารถดูข้อมูลได้จากหน้าจอนาฬิกาทันที ไม่ต้องไปเปิดบนสมาร์ทโฟนก็ได้

รองรับการโทรผ่าน Bluetooth

Redmi Watch 4 สามารถใช้โทรศัพท์ได้เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth โดยที่อุปกรณ์ทั้ง 2 เครื่อง ต้องอยู่ด้วยกันภายในรัศมี 10 เมตร ซึ่งโดยปกติแล้วในสมาร์ทวอทช์ราคานี้มักจะไม่รองรับฟีเจอร์การโทรผ่าน Bluetooth เท่าไหร่นัก จึงนับว่าเป็นจุดเด่นจุดแข็งเลยก็ว่าได้ครับ

แบตอึดนานสูงสุด 20 วัน

Redmi Watch 4 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่เมื่อชาร์จเต็ม 100% จะมีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 20 วัน (ในกรณีปิดฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ)

และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างสะดวกผ่านแท่นชาร์จแบบแม่เหล็กที่แถมมาให้ในกล่อง

ราคาและการจำหน่าย

Redmi Watch 4 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Obsidian Black และ Silver Gray วางจำหน่ายในราคา 3,690 บาท สามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้า Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว Redmi Buds 5 หูฟังตัดเสียงรบกวนรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้

🔴 สเปค Redmi Buds 5


ความจุแบตเตอรี่ หูฟัง : 54mAh
เคสชาร์จ : 480mAh
พอร์ตการชาร์จ : USB Type-C
การเชื่อมต่อไร้สาย : Bluetooth 5.3
โพรโทคอล Bluetooth HSP, HFP, A2DP, AVRCP
อิมพีแดนซ์ของลำโพง 32Ω
น้ำหนักของหูฟังหนึ่งข้าง : 5.3 กรัม
ขนาดของหูฟังหนึ่งข้าง : 29.5 × 21.4 × 23.5 มม.
น้ำหนักของเคสชาร์จ : 31.4 กรัม
ขนาดของเคสชาร์จ : 61 × 50 × 24.6 มม.
น้ำหนักรวม : 42 กรัม
มี 3 สี ได้แก่ Black, White และ Sky Blue
ราคา 1,590 บาท

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

หูฟัง Redmi Buds 5
เคสชาร์จ
สายชาร์จ USB-C
จุกหูฟังสำรอง 2 ขนาด
คู่มือการใช้งาน

Design

Redmi Buds 5 มาพร้อมเคสชาร์จที่ใช้วัสดุพลาสติก มีผิวสัมผัสแบบด้าน น้ำหนักเบา

ด้านบนตรงกลางมีโลโก้ Redmi

ด้านขวามีปุ่มสำหรับสลับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และใช้ในการ Reset หูฟัง

และด้านหน้ามีพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

เมื่อเปิดฝากล่องชาร์จออกมาจะเห็นตัวหูฟังอยู่ด้านใน โดยหูฟังแต่ละข้างเป็นแบบ In-Ear และด้านล่างมีแถบไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อ

คุณสมบัติ ลดเสียงรบกวนสูงสุดได้ถึง 46dB

Redmi Buds 5 มีความลึกในการลดเสียงรบกวน (noise reduction depth) ถึง 46dB สูงกว่า Redmi Buds 4 ถึง 11dB ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นถึง 3.5 เท่า และสามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้สูงถึง 99.5% รวมทั้งรองรับการลดเสียงรบกวนคลื่นความถี่ 2000Hz ซึ่งครอบคลุมความถี่ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน

ไดอะแฟรมชุบไทเทเนียม 12.4 มม

Redmi Buds 5 มีลำโพงไดอะแฟรมชุบไททาเนียม 12.4 มม (12.4mm titanium plated diaphragm speaker) ด้วยการออกแบบโครงสร้างห้องด้านนอก (rear chamber) อย่างอิสระ 

และยังตั้งค่าเสียงเอฟเฟกส์ได้ 4 รูปแบบ

ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย

Redmi Buds 5 รองรับ Google Fast Pair , การเชื่อมต่อสองอุปกรณ์ และยังรองรับแอปพลิเคชันหูฟังของเสียวหมี่ที่ช่วยให้ปรับตั้งค่าต่างๆได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

การปรับตั้งค่าในแอปพลิเคชั่น

Redmi Buds 5 ควบคุมสั่งงานด้วยระบบสัมผัสผ่านปลายนิ้วง่ายๆ โดยสามารถปรับแต่งในแอป Xiaomi Earbuds

โดยเราสามารถตั้งค่าเพื่อให้เล่นเพลงก่อนหน้า / เล่นเพลงต่อไป / เพิ่มระดับเสียง / ลดระดับเสียง / เล่นหยุดชั่วคราว ดังต่อไปนี้

การแตะหูฟังด้านซ้ายหรือขวา 1 ครั้ง
การแตะหูฟังด้านซ้ายหรือขวา 2 ครั้ง
การแตะหูฟังด้านซ้ายหรือขวา 3 ครั้ง
การแตะหูฟังด้านซ้ายหรือขวาค้างไว้

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า

การตรวจจับในหู ในกรณีเอาหูฟังออกจากหู เพลงก็จะหยุดเล่นทันที

การทดสอบความพอดีของจุกหูฟัง ซ้าย-ขวา

การเชื่อมต่อแบบคู่ คือการเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน

การรับสายอัตโนมัติเมื่อใส่หูฟังตัวนี้อยู่

การเปลี่ยนชื่อหูฟัง

การตามหาหูฟัง


อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานเป็นพิเศษ 10 ชม./40 ชม.

Redmi Buds 5 มีอายุแบตเตอรี่ยาวนาน 10 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานตลอดวัน มาพร้อมเคสชาร์จโดยมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานหนึ่งสัปดาห์ และรองรับการชาร์จเร็ว ที่ชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง

การวางจำหน่าย

Redmi Buds 5 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, White และ Sky Blue พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในราคา 1,590 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments