Apple มีแผนปรับขึ้นราคา iPhone 17 Series แพงขึ้น 43% โดยอาจให้เหตุผลว่าไม่เกี่ยวกับภาษี แต่เป็นเพราะดีไซน์และฟีเจอร์ใหม่ !!!

มีรายงานว่า Apple กำลังพิจารณาขึ้นราคา iPhone รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน นี้ แต่ต้องการหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงการขึ้นราคากับปัญหาการปรับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

โดยสำนักข่าว Wall Street Journal รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า Apple กำลังพิจารณาขึ้นราคา iPhone รุ่นใหม่ แต่ไม่ได้มีเหตุเชื่อมโยงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จากจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตและประกอบอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของ Apple

ทั้งนี้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีน มากที่สุด ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มเก็บภาษีศุลกากรหลายรายการ

และการขึ้นราคาสินค้าอาจช่วยให้ Apple บรรเทาต้นทุนที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากภาษีศุลกากรที่ขัดขวางระบบ Supplychain ทั่วโลกในตอนนี้ได้ และบริษัทอาจต้องย้ายการผลิตไปที่อินเดียมากขึ้น

Apple กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ภาษีศุลกากรคาดว่าจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเมษายน-มิถุนายน และมีแผนจะจัดส่ง iPhone ส่วนใหญ่ที่ขายในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาดังกล่าวจากโรงงานอินเดียในสัดส่วนที่มากขึ้น

นักวิเคราะห์คาดเดากันมาหลายเดือนเกี่ยวกับการขึ้นราคาจาก Apple แต่เตือนว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งอย่าง Samsung พยายามดึงดูดผู้บริโภคด้วยฟีเจอร์ AI ที่ Apple มีความล่าช้าในการเปิดตัวอย่างมากจนถึง ณ เวลานี้

ปัจจุบัน iPhone 16 รุ่นที่ถูกที่สุดเปิดตัวในสหรัฐฯ มีราคา 799 ดอลลาร์ แต่ราคาอาจปรับขึ้นสูงถึง 1,142 ดอลลาร์ เนื่องจากภาษีศุลกากร ตามการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วจาก Rosenblatt Securities ซึ่งระบุว่าต้นทุนอาจเพิ่มขึ้น 43%

รายงานของ WSJ ระบุว่า Apple กำลังวางแผนที่จะให้เหตุผลการปรับขึ้นราคาเชื่อมโยงเข้ากับคุณสมบัติใหม่และการเปลี่ยนแปลงการออกแบบรวมถึงรุ่นบางเฉียบซึ่งอาจช่วยให้การขึ้นราคานี้ฟังดูมีเหตุผลได้

Source : Reuters
Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments