vivo ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟน X300 และ X300 Pro ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ โดย vivo X300 มาพร้อมหน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.31 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบเพียง 1.05 มม. ทุกด้าน ส่วน X300 Pro ใช้หน้าจอ LTPO OLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K 120Hz ขอบจอบางเฉียบเพียง 1.1 มม. ทุกด้าน ทั้งสองรุ่นใช้วัสดุจอ BOE Q10+ มีระบบลดแสง DC ความสว่างสูงสุด และ PWM ความสว่างสูงสุด 4500nits , ค่าความสว่างต่ำสุด 1nits และรองรับการจัดการสีธรรมชาติแบบ Full-link ของ ZEISS
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9500 รุ่นล่าสุด มาพร้อม RAM LPDDR5X และ หน่วยความจำแบบ UFS 4.1
ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Origin OS 6.0 บนพื้นฐาน Android 16 โดยตัวเครื่องมีมาตรฐานการทนฝุ่นและน้ำ IP68 + IP69
X300 มาพร้อมกล้องหลัก 200MP เซ็นเซอร์ Samsung HPB ขนาด 1/1.4 นิ้ว, กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP และกล้องเทเลโฟโต้ Periscope LYT602 ขนาด 1/1.95 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเทเลมาโคร
X300 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้กล้องหลัก LYT828 ความละเอียด 50MP ขนาด 1/1.28 นิ้ว มีกล้องอัลตร้าไวด์ 50MP และ เซ็นเซอร์ Samsung HPB ความละเอียด 200MP ขนาด 1/1.4 นิ้ว สำหรับกล้องเทเลโฟโต้ Periscope 85 มม. พร้อมเทเลมาโคร
โดยครั้งนี้ X300 Pro ได้พัฒนาเลนส์เทเลโฟโต้ 200 ล้านพิกเซล HPB ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ นับเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ 200 ล้านพิกเซล รุ่นที่สี่ ที่ผลิตขึ้นภายใต้นวัตกรรมของ vivo ซึ่งได้รับการปรับแต่งอย่างล้ำลึก มีความเสถียรมากขึ้น ระดับการป้องกันภาพสั่นไหวแบบเทเลโฟโต้เป็นระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม ด้วยการรับรองการป้องกันภาพสั่นไหว CIPA 5.5 ทำให้มีความเสถียรอย่างยิ่ง!
อีกทั้งการปรับแต่งอย่างละเอียด และการพัฒนากลไกการติดตามโฟกัสพิเศษทำให้การบันทึกภาพเคลื่อนไหวระยะไกลพิเศษทำได้ดียิ่งขึ้น
มีอัลกอริทึมพิเศษเฉพาะ ที่เพิ่มประสิทธิภาพพื้นฐาน ทำให้ได้เอฟเฟกต์เทเลโฟโต้ที่ไกลและชัดเจนยิ่งขึ้น
โปร่งใสยิ่งขึ้น ด้วยการเคลือบ ZEISS T* Coating ช่วยให้กระจกเลนส์มีความบริสุทธิ์มากขึ้น ได้รับการรับรอง APO เฉพาะ มีความแตกต่างของสีที่น้อยลงด้วยเลนส์แก้วฟลูออไรต์
เพิ่มเทคโนโลยี Loss-Less Exposure (LLE) เพื่อปรับปรุงอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนแม้ขณะซูม ลดสัญญาณรบกวนในฉากที่มีแสงน้อย
รองรับ Hybrid Frame-HDR (HF-HDR) ที่ผสานรวม Single-Frame HDR, Dual-Conversion Gain และ Multi-Frame HDR ทำให้มีช่วงไดนามิกเกิน 100 dB ซึ่งสูงที่สุดสำหรับเซ็นเซอร์มือถือปัจจุบัน
โดยที่ทั้งสองรุ่นนี้มีกล้องหน้าความละเอียด 50MP และยังใช้ชิปประมวลผลภาพ V3+ และรุ่น Pro ยังมีชิป VS1 เพิ่มเติมอีกด้วย
และหากพลังซูมในเครื่องยังไม่สะใจพอ vivo ได้เตรียม "อาวุธลับ" ที่จะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนของคุณให้กลายเป็นกล้อง Professional อย่างแท้จริง นั่นคือ vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender หรือชุดเลนส์เสริมซูมเทเลโฟโต้ที่ vivo พัฒนาร่วมกับ ZEISS
อุปกรณ์นี้ไม่ใช่แค่เคสสวยๆ แต่มันคือชุดเลนส์ Extender ที่สวมทับเข้าไปเพื่อเพิ่มกำลังขยาย optical ให้กับเลนส์เดิมถึง 2.35 เท่า
เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง Telephoto 200MP ของ X300 Pro จะทำให้ได้ระยะโฟกัสเทียบเท่า 200mm ที่ความละเอียดสูง!
ผลลัพธ์ การถ่ายในระยะไกลมากๆ จะได้คุณภาพไฟล์ที่คมกริบเหมือนใช้กล้อง DSLR ติดเลนส์บ้องข้าวหลาม ตัดปัญหาภาพแตกหรือวุ้นเมื่อซูมสุดระยะ และสำหรับ X300 Pro ชุดอุปกรณ์นี้จะมาพร้อมกับ "เคสสมาร์ตโฟนพร้อมกริปจับ" ที่ออกแบบมาให้ฟีลลิ่งการจับถือเหมือนกล้องจริง
USB Connection กริปสามารถเชื่อมต่อกับตัวเครื่องผ่านพอร์ต USB โดยทำให้จับถือถ่ายภาพและวิดีโอกลางคอนเสิร์ตได้มั่นคงมากขึ้น
มีปุ่มกดชัตเตอร์และปุ่มอัดวิดีโอแยกมาให้ที่กริป ทำให้การควบคุมกล้องถนัดมือ นิ่ง และมั่นคงกว่าการแตะหน้าจอ
🔵 สเปค vivo X300 Pro
หน้าจอแบน LTPO AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว , ความละเอียด 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล) , อัตรารีเฟรช 120Hz , ความสว่างสูงสุด 4500nits , รองรับมาตรฐาน ZEISS Master Colors , High-frequency PWM dimming 2160Hz , อัตราส่วนภาพ 20:9 พร้อม HDR10+ ครอบทับด้วยกระจก Armor Glass
CPU : MediaTek Dimensity 9500 (3nm)
GPU : Arm Mali-G1 Ultra MC12
RAM : 16GB ชนิด LPDDR5x
ROM : 512GB ชนิด UFS 4.1
รองรับ 5G Dual Mode
รองรับ 2 Sim Cards
กล้องหลัง ZEISS 3 ตัว ความละเอียด 50 + 50 + 200 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์หลัก Sony LYT828 ขนาด 1/1.28 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.57 , รองรับ OIS , กล้อง Ultra Wide 50MP เซนเซอร์ Samsung JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว, รูรับแสง f/2.0 , กล้อง ZEISS APO Periscope TelePhoto , เซนเซอร์ Samsung HPB , มาตรฐาน ZEISS APO , ขนาด 1/1.4 นิ้ว , รูรับแสง f/2.67 , รองรับ Optical Zoom 3.5x , รองรับ Tele Macro เคลือบเลนส์ ZEISS T*Coating
กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล , f/2.0
ชิปประมวลผลภาพคู่ vivo V3+ และ VS1
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือแบบ 3D Ultra Sonic
รองรับการทนน้ำทนฝุ่นมาตรฐาน IP68/IP69
รองรับลำโพงคู่แบบ Stereo + ระบบเสียง Hi-Fi
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 802.11 be, Bluetooth 6.0, GPS: L1+L5, Beidou: B1C+B1I+B2a+B2b, GLONASS: G1 Galileo: E1+E5a+E5b, QZSS: L1+L5, NavIC: L5, NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C (3.2 Gen 1)
แบตเตอรี่ความจุ : 6510mAh + 90W FlashCharge + ชาร์จไร้สาย 40W และ ชาร์จไร้สายย้อนกลับ
ระบบปฎิบัติการ : Android 16 + Origin OS 6
ขนาดตัวเครื่อง : 161.98×75.48×7.99 มม.
น้ำหนัก : 226 กรัม
🔵 สเปค vivo X300
หน้าจอแบน LTPO AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว , ความละเอียด 1.5K (2640 x 1216 พิกเซล) , อัตรารีเฟรช 120Hz , ความสว่างสูงสุด 4500nits , มาตรฐาน ZEISS Master Colors , High-frequency PWM dimming 2160Hz , อัตราส่วนภาพ 20:9 พร้อม HDR10+ ครอบทับด้วยกระจก Armor Glass
CPU : MediaTek Dimensity 9500 (3nm)
GPU : Arm Mali-G1 Ultra MC12
RAM : 12GB/16GB ชนิด LPDDR5x
ROM : 256GB/512GB ชนิด UFS 4.1
รองรับ 5G Dual Mode
รองรับ 2 Sim Cards
กล้องหลัง ZEISS 3 ตัว ความละเอียด 200 + 50 + 50 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์หลัก Samsung HPB ขนาด 1/1.4 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.68 , รองรับ OIS , กล้อง Ultra Wide 50MP เซนเซอร์ Samsung JN1 ขนาด 1/2.76 นิ้ว, รูรับแสง f/2.0 , กล้อง ZEISS APO Periscope TelePhoto , เซนเซอร์ Sony LYT602 , ขนาด 1/1.95 นิ้ว , รูรับแสง f/2.57 , รองรับ Optical Zoom 3x เคลือบเลนส์ ZEISS T*Coating
กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล , f/2.0
ชิปประมวลผลภาพ vivo V3+
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือแบบ 3D Ultra Sonic
รองรับการทนน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68/IP69
รองรับลำโพงคู่แบบ Stereo + ระบบเสียง Hi-Fi
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 802.11 be, Bluetooth 5, GPS: L1+L5, Beidou: B1C+B1I+B2a+B2b, GLONASS: G1 Galileo: E1+E5a+E5b, QZSS: L1+L5, NavIC: L5, NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C (3.2 Gen 1)
แบตเตอรี่ความจุ : 6040mAh + 90W FlashCharge + ชาร์จไร้สาย 40W และ ชาร์จไร้สายย้อนกลับ
ระบบปฎิบัติการ : Android 16 + Origin OS 6
ขนาดตัวเครื่อง : 150.57 × 71.92 × 7.95 มม.
น้ำหนัก : 190 กรัม
ราคาและการวางจำหน่าย
vivo X300 Series เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดย
vivo X300 วางจำหน่ายในสองรุ่นความจุ ได้แก่ รุ่น 12GB + 256GB ในราคา 31,999 บาท และรุ่น 16GB + 512GB ในราคา 34,999 บาท
ในขณะที่ vivo X300 Pro จัดเต็มความจุ 16GB + 512GB ในราคา 39,999 บาท
พิเศษยิ่งขึ้น! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ vivo X300 Series ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568 รับทันที ของสมนาคุณพิเศษสามต่อ มูลค่ารวม 13,188 บาท เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานอย่างเต็มที่
ต่อที่ 1: vivo Care รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี จำนวน 1 ครั้ง มูลค่า 10,999 บาท
ต่อที่ 2: ขาตั้งสมาร์ตโฟน มูลค่า 890 บาท
ต่อที่ 3: เคสตัวเครื่องพร้อมแม่เหล็ก มูลค่า 1,299 บาท
สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการขยายขีดจำกัดของพลังซูม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ระดับ VIP ชุดเลนส์เสริมกำลังขยาย 2.35 เท่า (vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender) ซึ่งประกอบด้วยเคสสมาร์ตโฟนและเลนส์ซูม สำหรับรุ่น X300 Pro และ X300 พร้อมให้สายถ่ายระยะไกลได้เป็นเจ้าของแล้วในราคา 5,999 บาท
นอกจากนี้ เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวและเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น vivo X300 Pro ยังมีอุปกรณ์เสริม ได้แก่ กริป (Grip) สำหรับการจับถือที่กระชับถนัดมือ ช่วยให้ภาพและวิดีโอนิ่งและมั่นคง ไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ วางจำหน่ายในราคา 2,500 บาท โดยผู้สนใจสามารถเลือกซื้อ เซ็ตชุดเลนส์เสริมและกริป เพื่อรับทั้งพลังซูมและการจับถือที่สมบูรณ์แบบได้ในราคาสุดคุ้มค่า เพียง 8,499 บาท
Article By : โลกไอทีวันนี้












