#FullReview : Samsung Galaxy Buds ชุดหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ ที่เล็กแต่ร้าย !!! มาพร้อมเคสชาร์จขนาด 400 mAh , แบตเตอรี่ในตัว 100 mAh , รองรับ Bluetooth 5.0 , คุณสมบัติกันน้ำ IPx2 , รองรับ Wireless Charging และระบบเสียง "Sound by AKG" พร้อมคุณสมบัติจัดเต็ม ในดีไซน์เล็กกระทัดรัดและสวยงามมากขึ้น !!!


การที่จะหาหูฟัง True Wireless ซักตัวนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การที่จะหาหูฟัง True Wireless ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่ไม่ยุ่งยาก , มีระบบการจัดการที่ดี และมีคุณภาพเสียงชั้นเลิศ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
แน่นอนว่าฝั่งผลไม้คงหนีไม่พ้น Apple AirPods ที่มีคุณภาพสูงตรงตามสเปคข้างต้น แต่ราคาก็สูงเอาเรื่อง แล้วฝั่ง Android หล่ะมีแบรนด์ไหนพอจะท้าชิงได้บ้าง

หนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆของหลายๆคน ก็ต้องมี Samsung Galaxy Buds ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ที่เปิดตัวมาพร้อมกับสมาร์ทโฟน Galaxy S10 Series และพึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยไม่นานมานี้ 

โดยเจ้า Galaxy Buds นี้เป็นทายาทสายตรงของ Gear iconX (2018) อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมีหน้าตาละม้ายคล้ายกันซะเหลือเกิน แต่ว่าก็ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างภายใน 

เบื้องต้น Galaxy Buds มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 100 mAh , ตัวเคสบรรจุซึ่งมีแบตเตอรี่ 400 mAh และสนับสนุนการชาร์จไร้สาย นอกจากนี้ Galaxy Buds ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ IPx2 และ รองรับ Bluetooth 5.0 


ภายในกล่องนั้นประกอบไปด้วย

- Charging Case × 1 ชุด
- หูฟัง × 2 ข้าง
- ยางซิลิโคนสำหรับเปลี่ยนจุกหูฟัง × 4 ชิ้น
- สาย USB Type - C × 1 เส้น
- คู่มือ × Warranty Card × 1 ชุด 


Galaxy Buds นั้นยังคงมีดีไซน์โทนเดียวกับ Gear IconX แต่ว่ามีการปรับขนาดให้เล็กลง ทั้งตัวชุดหูฟังรวมไปถึงกล่องบรรจุ ที่ดูเรียบง่ายและมีความสปอร์ตมากขึ้น โดยชุดหูฟังที่ใช้รีวิวนี้เป็นสีขาว วัสดุประกอบทั้งหมดเป็นพลาสติกผิวเรียบด้าน 
ตัว Charging Case หรือ ตลับชาร์จ ที่เป็นกล่องเก็บหูฟัง นั้นด้านหน้ามีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะของแบตเตอรี่ โดยมีทั้งหมด 3 สี คือ


1.สีแดง เมื่อแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 30%
2.สีเหลือง เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30 - 60%
3.สีเขียว เมื่อแบตเตอรี่เหลือเกิน 60%
เมื่อเปิดฝาตลับขึ้นมา จะพบตัวหูฟังพร้อมไฟแสดงสถานะด้านใน ซึ่งมี 2 สี คือ แดง(กำลังชาร์จ) และ เขียว(ชาร์จเต็มแล้ว)




ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง มีการพิมพ์อักษรกำกับ L และ R สำหรับแยกซ้ายและขวา
ที่ฝั่งด้านนอกจะมีพื้นที่สำหรับสั่งงานด้านการสัมผัส(TouchPad) และ รูไมโครโฟน ด้านล่างทั้ง 2 ข้าง
ส่วนฝั่งด้านในจะมีก้านหูฟังแบบ in - ears , ด้านข้างจะมีหน้าสัมผัสทองแดง 2 จุด สำหรับการชาร์จแบตกับตัวตลับ และ Touch Sensitive Sensors สำหรับตรวจจับการใส่หูฟัง โดยเจ้าเซนเซอร์นี้มีประโยชน์คือ เมื่อเราถอดหูฟังออกทั้ง 2 ข้าง เพลงจะหยุดเล่นแบบอัตโนมัติทันที 



ส่วนด้านหลังของตลับชาร์จ มีพอร์ต USB Type - C สำหรับชาร์จด้วยสาย และ ตัวตลับยังรองรับ Wirelss Charging อีกด้วย


ถือเป็นข้อดีของอุปกรณ์ EcoSysyem ของ Samsung เพราะใช้การเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่นเดียวกันทั้งหมดคือ Galaxy Wearables ซึ่งง่ายแสนง่ายมาก


ในการเชื่อมต่อครั้งแรก เมื่อคุณเข้ามาในหน้าแรกของแอพ Galaxy Wearables แล้ว ให้คุณเลือกเชื่อมต่อในหัวข้อ Galaxy Buds จากนั้นเปิดฝาของตลับชาร์จขึ้นมา หลังจากนั้นก็รอให้มัน Set Up แค่เพียงชั่วอึดใจเท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น เราไม่ต้องไปตั้งค่ายุ่งยากอะไรเลยครับ



หลังจากเชื่อมต่อเสร็จ หน้าแรกในแอพ Galaxy Wearable จะมีการปรับตั้งค่าและแสดงสถานะต่างๆดังนี้


- การปรับแต่งโทนเสียง โดยปรับได้ 5 รูปแบบ คือ Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost 


- การตั้งแจ้งเตือน ว่าเลือกจะให้แจ้งเตือนจากแอพไหนบ้าง (ตัวหูฟังจะอ่านชื่อแอพและเนื้อหาเบื้องต้นให้ รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ)

- การตั้งค่า TouchPad โดยหลักๆมีดังนี้
แตะ 1 ครั้งเพื่อหยุด/เล่นเพลง
แตะ 2 ครั้งเพื่อข้ามไปเพลงถัดไป
แตะ 3 ครั้งเพื่อย้อนกลับเพลงก่อนหน้า
แตะค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Bixby หรือ Google Assistant
แตะหูฟัง 2 ข้างพร้อมกัน เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น (Pairing Mode) 



- Ambient Sound คือการเปิดรับเสียงรอบข้าง ในกรณีที่เราเดินบนถนนหรือขับขี่ยานพาหนะ เช่น เสียงคนรอบข้าง , เสียงแตรรถยนต์ ก็จะแทรกเข้ามาในหูฟังให้เราได้รู้ตัว (เหนุเพราะหูฟัง in ears เวลาอุดหูแน่นๆจะไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลย)

- Find My EarsBuds สำหรับใช้คนหาหูฟังในกรณีลืมไว้ โดยเมื่อกดฟังก์ชั่นนี้ เราจะได้ยินเสียงดังออกมาจากหูฟัง ทำให้เราทราบตำแหน่ง


ส่วนการใช้งานในครั้งต่อๆไปหลังจากตั้งการเชื่อมต่อไว้แล้วก็ง่ายมากๆ แค่คุณเปิด Bluetooth บนสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้ จากนั้นเปิดฝาของตลับชาร์จ เพียงเท่านี้ตัวหูฟังก็จะเชื่อมต่อให้อัตโนมัติทันที 


ต้องบอกว่า Galaxy Buds นั้นให้คุณภาพเสียงที่ค่อนข้างประทับใจ โดยมาในโทนเสียงแหลมและเบสเป็นหลัก แต่เสียงเบสอาจจะไม่ได้แน่นหนักมาก แต่ก็มาเป็นลูกๆเหมือนกัน โดยรวมแล้วต้องบอกว่าให้เสียงที่มีรายละเอียดครบพอสมควร อาจจะด้วยอานิสงค์ของการปรับแต่งจาก AKG ก็เป็นได้ 
ตัวหูฟัง in ears มีการออกแบบที่ค่อนข้างดี กระชับกับใบหู แต่ไม่รู้สึกว่าอึดอัดจนมากเกินไป สามารถใส่ฟังเพลงได้ต่อเนื่องนานกว่าปกติ และไม่มีส่วนยื่นส่วนเกินออกมานอกใบหู ซึ่งจุดนี้ถือว่าออกแบบได้สวยงามมาก

ค่อนข้างดี ไม่มีอาการกระตุกหรือเสียงดีเลย์ให้เห็น หรือถ้ามีก็อาจจะน้อยมาก ซึ่งผมไม่ทันรู้สึกตัว เท่าที่ลองทดสอบฟังเพลง , ดูหนัง และเล่นเกมส์ ต่อเนื่องราวๆ 2 - 3 ชั่วโมง จัดว่ารอบนี้ทำออกมาดีครับ

จุดนี้ต้องขอบอกว่าไม่ค่อยประทับใจ จากที่ลองพบว่า เมื่อเราโทรออกไปหรือรับสาย จะได้ยินเสียงของคู่สนทนาชัดเจนดีมาก แต่อีกฝั่งกลับไม่ค่อยได้ยินเสียงเรา หรือ ได้ยินแต่ค่อนข้างเบา และเสียงเราที่คู่สนทนาได้ยินจะเป็นเสียงก้องๆไกลๆ เหมือนเปิด Speaker คุย แต่พอใช้ไปซักพักก็จะเริ่มปรับตัวได้เอง 

ทาง Samsung เคลมว่า Galaxy Buds สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง ต่อการชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้ง , ส่วนตลับชาร์จเมื่อมีแบตเต็มสามารถเติมไฟให้หูฟังได้ถึง 4 ครั้ง 

Galaxy Buds นั้นจัดเป็นหูฟังที่ดีและมีคุณสมบัติครบรอบด้าน , มีความง่ายต่อการเชื่อมต่อและเปิดใช้งาน , มีคุณภาพเสียงที่จัดว่าดีในระดับต้นๆของหูฟังชนิด True Wireless แต่อาจจะต้องปรับปรุงในเรื่องการใช้โทรสนทนาที่เสียงพูดฝั่งเราจะเบาไปนิด แต่โดยรวมจัดว่าเยี่ยมครับ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวแล้วก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มใช้ได้ครับ 

- ดีไซน์ : 9/10
- การเชื่อมต่อ : 9/10
- ความง่ายในการใช้งาน 9.5/10
- คุณภาพเสียง : 8.5/10
- แบตเตอรี่ : 8.5/10
- คุณภาพการโทร : 7.5/10
- ราคา : 7.5/10


Galaxy Buds วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ตาม Samsung Brand Shop ทุกสาขา และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ในราคา 4,990 บาท

Article By : โลก IT วันนี้

Comments