#ลืมกันหรือยัง LG - V50 ThinQ 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรองรับ 5G ที่มาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Snapdragon 855 , กล้องหลัง 3 ตัว(Triple Rear Camera) , กล้องหน้าคู่ (Dual Front Camera) พร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับขยายหน้าจอ "Dual Screen Case" เตรียมวางจำหน่ายในอเมริกา 31 พฤษภาคม นี้ !!!


หลังจากเปิดตัวกันไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา ในที่สุด LG - V50 ThinQ 5G ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว


โดย LG - V50 ThinQ นั้นยังคงมาพร้อมคุณสมบัติสำหรับสายมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ FullVision ชนิด OLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ที่รองรับ Dolby Vision และ HDR10 , ระบบเสียง Quad DAC 32 Bit Hi - Res Audio ที่มาพร้อมกับลำโพง Boombox Speaker สุดกระหึ่ม และปรับจูนโดย Meridian Audio ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องเสียงชื่อดังและเก่าแก่ในประเทศอังกฤษ 

นอกจากนี้สเปคอื่นๆก็ยังจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855 , RAM 6 GB และ ROM สูงสุด 128 GB อีกทั้งยังรองรับเครือข่าย 5G อีกด้วย

ด้านระบบกล้อง จะเเบ่งเป็น

1.กล้องหลัง 3 ตัว(Triple Rear Camera) และ กล้องหน้าคู่(Dual Front Camera)
กล้องหลัง 3 ตัว(Triple Camera) ประกอบไปด้วย

- Standard Lens ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล , f/1.5
- Super Wide Angle Lens(เลนส์มุมกว้าง 107 องศา) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , f/1.9
- TelePhoto Zoom Lens(เลนส์ระยะไกล) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล , f/2.4
โดยกล้องหลัง 3 ตัวนี้ สามารถแสดงภาพถ่ายแยกแต่ละเลนส์ได้ในการถ่าย 1 ช๊อต ทำให้สามารถเลือกภาพที่มีมุมมองแตกต่างกันได้ถึง 3 แบบ 

2.กล้องหน้าคู่(Dual Front Camera) ประกอบไปด้วย
- Standard Lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/1.9
- Wide Angle Lens(เลนส์มุมกว้าง 90 องศา) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.2
ซึ่งสามารถถ่าย Portrait Mode และปรับความเบลอก่อนกดถ่ายได้ 


สเปค LG - V50 ThinQ 5G 

หน้าจอบากแบบ Full Vision ชนิด P - OLED ขนาด 6.4 นิ้ว , อัตราส่วน 19.5 : 9 , ความละเอียด QHD+ ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 , รองรับ Dolby Vision และ HDR10
CPU : Qualcomm Snapdragon 855
GPU : Adreno 640
RAM : 6 GB ชนิด LPDDR4X
ROM : 128 GB ชนิด UFS 2.1
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 512 GB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับเครือข่าย 5G
กล้องหลัง 3 ตัว(Triple Camera) ความละเอียด 12 + 16 + 12 ล้านพิกเซล , f/1.5 + f/1.9 + f/2.4 (Main + Ultra Wide 107 องศา + TelePhoto) , 3 Axis OIS , Laser PDAF และ 2X Optical Zoom
กล้องหน้าคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 8 + 5 ล้านพิกเซล , f/1.9 + f/2.2 (Main + Wide Angle 90 องศา)
รองรับระบบ AI Camera และ Google Lens
ฟีเจอร์ : Cine Shot, 3D Light Effect, Makeup Pro, Custom Backdrop, My Avatar และ AR Emoji
รองรับระบบสแกนนิ้วมือ
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP68
รองรับการกันกระเเทกระดับ MIL - STD 810G
รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
รองรับ Quad DAC 32 Bit Hi - Res Audio
รองรับ DTS: X Surround Sound
รองรับ Boombox Speaker
รองรับ NFC/Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 3500 mAh + QuickCharge 3.0 และ Wireless Charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 9.0 ครอบทับด้วย LG UX
สี : Astro Black








ส่วนอุปกรณ์เสริมใหม่อย่าง Dual Screen Case นั้นก็มีความคล้ายกับของ ROG Phone คือเป็นเคสที่มีหน้าจอเสริม โดยเราเพียงแค่นำ V50 ThinQ ใส่ไปกับเคส ก็จะทำให้มีหน้าจอแสดงผลเพิ่มมาอีกหนึ่งจอ โดยมีขนาด 6.2 นิ้ว ชนิด OLED ซึ่งสามารถทำงานแยกอิสระกับหน้าจอหลักได้ เช่น หน้าจอหนักเล่นเกมส์ หน้าจอเสริมก็เอามาเปิดเว็บได้ เป็นต้น แต่ข้อเสียคือ Dual Screen Case ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว จึงใช้แบตของ V50 ThinQ ทำให้เปลืองแบต × 2 กันไปเลย

โดย LG - V50 ThinQ 5G จะวางจำหน่ายผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย Sprint ของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้ ซึ่งพร้อมให้บริการ 5G ใน แอตแลนตา, ดัลลัส, ฮุสตัน และแคนซัส ซิตี้ ก่อนจะขยายไปยังเมืองอื่นๆ ในอนาคต 

นอกจากนี้ทางเครือข่าย Verizon ก็มีแผนวางจำหน่าย LG V50 ด้วยเช่นกัน โดยจะพร้อมให้บริการ 5G ในสหรัฐฯ ช่วงปลายฤดูร้อนนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 30 เมือง

ส่วนราคายังไม่ได้มีการประกาศแต่อย่างใด

VDO Ads :


Source : Phone Arena
Article By : โลก IT วันนี้

Comments