#FullReview : OPPO Find X2 5G สมาร์ทโฟนเรือธงขั้นเทพ !!!! ด้วยหน้าจอ​ True Billion Display ระดับโปร​ พร้อม​ Refresh​ Rate 120 Hz ,​ ชิปเซ็ต​ Snapdragon 865, RAM 12 GB , กล้องหลัง​ 3 ตัว​ , เซนเซอร์​ Sony​ IMX689 และ​ 65W Super VOOC Flash Charge 2.0 !!!


นี่คือหนึ่งในสมาร์ทโฟนคู่หูเรือธงที่หลายคนรอคอยและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆอย่างมากนับตั้งแต่วันเปิดตัว กับ OPPO Find X2 5G ซึ่งเป็นตัวน้องที่สเปคจัดเต็มไม่แพ้ตัวพี่เลยทีเดียว

โดย OPPO Find X2 5G ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยราคา 33,990 บาท  ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา

เบื้องต้นเราลองไปดูสเปคกันก่อนครับว่ามีอะไรบ้าง




สเปค​ OPPO Find X2 5G

หน้าจอแบบ True Billion Dual Curved Display พร้อมรูเจาะ​ขนาด​ 6.7​ นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3168 x 1440 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 120 Hz , อัตรา Sampling Rate 240 Hz, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย​ Gorilla Glass 6
CPU : Qualcomm Snapdragon 865
GPU : Adreno 650
RAM : 12 GB ชนิด​ LPDDR5
ROM : 256 GB ชนิด​ UFS 3.0
รองรับ​ 2 Sim Cards (5G Stand by)
รองรับ​เครือข่าย​ 5G​ Dual​ Mode 
กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48 + 13 + 12 ล้านพิกเซล​ ประกอบด้วย
กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Sony IMX689 , f/1.7 , ขนาดเซนเซอร์ 1/1.4" , รองรับ OIS, รองรับ​ All Pixel Omni - Directional PDAF, รองรับ​ Dual Native ISO
กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล 
และกล้อง TelePhoto 13 ล้านพิกเซล , รองรับ​ Optical Zoom สูงสุด 3 เท่า​ และ​ Digital​ Zoom​ 20​ เท่า
รองรับ 2 x 2 On-Chip Lens (OCL) สำหรับ Auto Focus
รองรับ​ Capture RAW Files 12 Bits
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , f/2.4
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับ​ Bluetooth 5.0/NFC
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน​ IP68
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ​ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 4200 mAh + รองรับ 65W Super VOOC Flash Charge 2.0 (ชาร์จ​ 0 - 100% ภายใน​ 38 นาที)​
ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + ColorOS 7.1
สี​ : Black​ และ​ Ocean


Unboxing




กล่องของ OPPO Find X2 5G รอบนี้มีความหรูหราพรีเมี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยเนื้อกระดาษแบบด้าน แต่เคลือบเฉดสีโฮโลแกรมที่หน้ากล่อง แสดงออกถึงความวัยรุ่นและหรูหราได้ในเวลาเดียวกัน


ภายในกล่องประกอบด้วย



- ตัวเครื่อง OPPO Find X2 × 1 เครื่อง
- เคสใสแบบ TPU × 1 ชิ้น
- สาย USB Type C × 1 เส้น
- 65W Super VOOC 2.0 Flash Charge Adapter × 1 ตัว
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด × 1 ชิ้น
- เอกสารและคู่มือต่างๆ × 1 ชุด



Design




OPPO Find X2 มาพร้อมวัสดุเฟรมโลหะผสมกระจก ที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม , น่าสัมผัส และ แข็งแรงทนทาน


ด้านหน้ามีหน้าจอขอบโค้งแบบ True Billion Dual Curved Display พร้อมรูเจาะ​ขนาด​ 6.7​ นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3168 x 1440 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 120 Hz , อัตรา Sampling Rate 240 Hz, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย​ Gorilla Glass 6 +  ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าคุณได้ใช้ คุณจะลืมหน้าจอสมาร์ทโฟนรายอื่นไปเลย ด้วยความลื่นไหลของจอที่แตกต่างจาก 60 Hz อย่างชัดเจน อีกทั้งยังรองรับการแสดงผล HDR10+ , มีค่าความสว่างสูงสุด 1200 nits , รองรับ AI Adaptive Eye Protection ซึ่งเป็นฟีเจอร์ถนอมสายตาที่ผ่านการรับรองจาก TüV Rheinland และฟีเจอร์ Ultra Vision Engine ที่สามารถปรับภาพ SDR ปกติให้กลายเป็นภาพแบบ HDR ได้

ซึ่งคุณสมบัติโดยรวมแล้ว นี่น่าจะเป็นจอแสดงผลที่ดีอันดับต้นๆของโลกสมาร์ทโฟนในเวลานี้แล้วครับ


ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง


ขอบด้านขวามีปุ่ม Power


ขอบล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด แบบ Dual Slot (ประกบคู่) และไม่รองรับ Micro SD Card , ไมโครโฟนสนทนาแบบคู่ , พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C และลำโพง Speaker ตามลำดับ


ขอบบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน


ด้านหลังมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (Triple Rear Camera) วางเรียงในแนวตั้งชิดมุมซ้าย , และใต้โมดูลกล้องเป็นไฟแฟลช Dual LED


โดยภาพรวมแล้วการออกแบบและวัสดุประกอบตัวเครื่องของ OPPO Find X2 5G  นั้นค่อนข้างพรีเมี่ยมและดูดีมาก และน่าจะมากเป็นอันดับต้นๆของวงการในตอนนี้ ด้วยหน้าจอ True Billion ที่มีสีสันสดสมจริง และแสดงเฉดสีได้มากถึง 1 พันล้านเฉดสี ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass  เช่นเดียวกันกับฝาหลังแบบกระจกที่ใช้ Gorilla Glass เหมือนกัน และยังตัดด้วยขอบโค้งมน 3 มิติ ทั้ง 4 ด้าน บวกกับสีใหม่ ที่มีการเคลือบผิวแบบ Two Tone ให้การสะท้อนแสงที่แตกต่าง ยิ่งทำให้ดูดีมีระดับมากขึ้นไปอีก
ซึ่งต้องบอกเลยว่าถูกใจเป็นอย่างมากครับ


Software &​ Performance





OPPO Find X2 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ​ Android​ 10 ภายใต้​ ColorOS 7.1 ซึ่งเป็น​ UI อันโด่งดังของทางค่าย​ ที่มีหน้าตาสวยงามและใช้งานไม่ยุ่งยาก เหมือนกับรุ่นอื่นๆของทางค่าย


ระบบควบคุมมีทั้งแบบ​ Navigation Bar หรือสามารถปรับไปใช้​ Gesture Control ที่ตั้งค่าได้หลากหลายรูปแบบ



อัตราการรีเฟรชหน้าจอของ OPPO Find X2 5G  สามารถเลือกได้ระหว่าง 120 Hz เพื่อการแสดงผลที่ลื่นไหล หรือ 60 Hz เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานมากขึ้น รวมไปถึงการกำหนดความละเอียดหน้าจอ QHD+  หรือปรับเป็น Full HD+ เพื่อลดการใช้แบตเตอรี่ ก็สามารถทำได้เช่นกัน



แน่นอนว่าระบบ Theme ก็มีรูปแบบอัพเดททุกวันให้เลือกอย่างมากมาย ทั้งการเปลี่ยน Lock Screen , พื้นหลัง และ ไอคอน


และยังมีแอพตัดต่อวิดีโออย่าง​ Soloop ซึ่งใช้งานง่ายและมีลูกเล่นหลากหลายติดตั้งมาไว้ให้ในเครื่องด้วย




OPPO Find X2 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ Snapdragon​ 865 ที่ถือว่าเป็นขีดสุดของขุมพลังในฝั่งเรือธง Android ณ เวลานี้แล้ว ดังนั้นเราคงไม่ต้องพูดถึงกันเยอะในเรื่องของพลังประมวลผล



อีกทั้งมาพร้อม​ RAM​ มากถึง 12 GB​ และ​ ROM​ 256 GB​ ชนิด UFS 3.1 ทำให้ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม GeekBench สามารถทำได้ คะแนน​ Single Core ได้สูงถึง​ 900 คะแนน​ และ​ Multi Core ได้​ 3246 คะแนน
 

Gaming




สำหรับประสบการณ์ในการเล่นเกมส์ด้วย OPPO Find X2 5G นั้นไม่มีอะไรที่ให้ติเลยจริงๆ กับประสบการณ์ที่ได้รับจากการทดสอบด้วยเกมส์ PUBG Mobile นั้นพบว่าสามารถปรับกราฟฟิคเกมส์ได้ในระดับสูงสุดทั้งหมด และสามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการกระตุกและเครื่องร้อนให้เห็นเลย



โดยอุณหภูมิเฉลี่ยขณะเล่นเกมส์จะอยู่ราวๆ 38 - 42 องศา นอกจากนี้ระบบสัมผัสหน้าจอยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีมาก


ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์​ Game​ Space​ และ​ Game Assistant ที่คอยช่วยจัดการระบบพลังงานและการแจ้งเตือนต่างๆด้วย

ระบบเสียง




OPPO Find X2 5G มาพร้อมกับลำโพงคู่แบบ Stereo บนและล่าง พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ที่เพิ่มมิติในการฟังให้สุนทรีย์มากยิ่งขึ้น ลำโพงนั้นมีมิติเสียงที่ดี ออกมาในโทนทุ้มและนุ่ม ระดับเสียงมีความดังแต่ไม่แตกพร่า ถือว่าให้คุณภาพที่ดีเยี่ยมครับ


ระบบรักษาความปลอดภัย




มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้ระบบสแกนใบหน้าได้เช่นกัน ซึ่งมีความเร็วในการปลดที่ดีอีกด้วย


ระบบกล้อง




- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Sony IMX689 , f/1.7 , ขนาดเซนเซอร์ 1/1.4" , รองรับ OIS, รองรับ​ All Pixel Omni - Directional PDAF, รองรับ​ Dual Native ISO

- กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Sony IMX708 , f/2.2

- กล้อง TelePhoto 13 ล้านพิกเซล , f/2.4 , รองรับ​ Optical Zoom สูงสุด 3 เท่า​ , Hybrid Zoom 5 เท่า และ​ Digital​ Zoom​ 20​ เท่า

- รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K (2160P 30/60fps)

- รองรับกันสั่นแบบ Ultra Steady Video 2.0 (OIS + EIS)

- รองรับ AI Scene Recognition และ Ultra Night Mode 3.0

- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , f/2.4
โดยภาพรวมการถ่ายภาพด้วยเลนส์หลักนั้น ให้รายละเอียดที่คมชัด​ และ​ มี​ Dynamic​ ของภาพที่​ดี​ ภายใต้สภาวะกลางวันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ย​ม ตามสไตล์ของค่าย

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ​ Ultra​ Wide​ องศา​ มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี​ มีมุมมองที่กว้างเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน  มีการแก้ไข​Distort ของภาพให้อย่างดี ในตอนกลางวันและกลางคืนทำออกมาได้ยอดเยี่ยม  (ในโหมด Auto)
โหมด TelePhoto รองรับ Optical Zoom ได้ 3 เท่า ให้รายละเอียดที่ดีครบถ้วน แต่เมื่อซูมดิจิตอลที่ระยะ 20 เท่า จะพบว่ารายละเอียดของภาพหายไปมาก

โหมดถ่ายภาพกลางคืน​ Ultra Night Mode ถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์ และเป็นไพ่เด็ดเลย เพราะใช้เวลาเพียง​ไม่นานในการถ่ายภาพ​ ประหนึ่งเหมือนถ่ายภาพกลางวันปกติ ในขณะที่ค่ายอื่นต้องรอหลายวินาที โดยทดสอบถ่ายในที่มืดพบว่าจะให้ภาพที่ออกมามี Quality ที่ดีโดดเด่นมาก แทบไม่มี Noise ปรากฎให้เห็น และให้โทนภาพที่มี Vivid ฟุ้งค่อนข้างสูง บนความสว่างที่เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน

ภาพถ่ายโหมด​บุคคล​ ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ​ มีการตัดขอบได้ค่อนข้างเนียนตามาก แต่ไม่สามารถปรับระดับเบลอหลังแบบ​ Manual ได้

กล้องหน้าความละเอียด​ 32 ล้านพิกเซล นั้นค่อนข้างให้โทนภาพในแบบธรรมชาติ , มีการปรับแต่ง Beauty Mode ได้หลายระดับ และสามารถถ่ายแบบ Portrait ได้เช่นกัน

ระบบกันสั่น Ultra Steady VDO 2.0 แบบใหม่นั้น ถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจจริงๆครับ เพราะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง OIS และ EIS ทำให้วิดีโอที่ได้ค่อนข้างนิ่งและเป็นธรรมชาติอย่างมาก

ตัวอย่างภาพถ่ายเลนส์หลัก


ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide Angle


ตัวอย่างภาพถ่าย TelePhoto 



ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Night Mode


ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคล



ตัวอย่างวิดีโอ




แบตเตอรี่




มาพร้อมความจุ 4200 mAh ซึ่งค่อนข้างใหญ่และเพียงพอต่อการใช้งานแบบข้ามวันสบายๆ ที่น่าประทับใจคือการเล่นเกมส์ต่อเนื่องนานกว่า 1 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดไปเพียง 11% เท่านั้น ซึ่งถือว่ามีระบบจัดการทรัพยากรที่ดีมากจริงๆ


นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จ 65W Super VOOC 2.0 Flash Charge แบบใหม่ ที่ไวกว่าเดิม การันตีการชาร์จ 0 - 100% ภายในระยะเวลา 38 นาที ซึ่งก็เป็นจุดเด่นอีกเรื่องของ OPPO Find X2 5G


สรุป



OPPO Find X2 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่พัฒนามาเป็นอย่างดีในทุกๆด้าน แบบที่เรียกได้ว่าหาข้อติยากมากจริงๆครับ โดยเราได้รับประสบการณ์ขั้นสุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ True Billion Display ที่สวยสดใสไหลลื่น 120 Hz , การใช้งานในชีวิตประจำวันที่ไม่มีติดขัด และ การเล่นเกมส์ที่ไร้อาการสะดุดและเครื่องร้อน บอกได้เลยว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่ลงตัวและตอบโจทย์มากจริงๆ สามารถเรียกว่ามันคือสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่สมกับราคาครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments