นักวิจัยจากสถาบัน MIT เปิดโครงการสร้าง #เครื่องช่วยหายใจ ต้นทุนต่ำ ที่สามารถผลิตในปริมาณมากได้เร็ว เพื่อรับมือกับปัญหาขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจทั่วโลก ด้วยภาวะโรคไวรัส COVID-19 !!!!



ภาวะการขาดอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์ เช่นมาสก์, ถุงมือป้องกัน และ เครื่องช่วยหายใจ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก เนื่องด้วยโรคระบาดจากเชื้อไวรัส COVID-19 กำลังผลักดันทรัพยากรของระบอบสาธารณสุขของทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบให้ถึงขีดจำกัด อย่างไรก็ตามนักวิจัยจากสถาบัน MIT พยายามที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้

รัฐบาลและบริษัทเอกชน ต่างต้องดิ้นรนหาวัสดุที่แพทย์และพยาบาลต้องการในการดูแลผู้ติดเชื้อนับพันหรือหมื่นในประเทศที่ได้รับผลกระทบ  ดังนั้นโครงการเช่นนี้จาก MIT จะสามารถช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้



อาการหลักของ COVID-19 เกี่ยวข้องกับปัญหาระบบทางเดินหายใจ ทำให้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลจำเป็นต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย โชคดีที่สถาบันวิทยาศาสตร์เช่น MIT ใช้เวลาหลายปีในการสร้างเครื่องช่วยหายใจที่ง่ายขึ้น  การออกแบบที่จะเร่งการมาถึงของอุปกรณ์นี้ในโรงพยาบาลทั่วโลก

มันทำงานอย่างไร



โครงการโอเพนซอร์ซ ที่ดำเนินการโดยกลุ่มนักเรียนจากหลักสูตรการออกแบบเครื่องจักรที่แม่นยำ เริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อน เป็นมาตรการที่จำเป็นสำหรับพื้นที่ชนบทในประเทศกำลังพัฒนา ในพื้นที่เหล่านี้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจบ่อยครั้ง และมีเครื่องช่วยหายใจเชิงกลที่ใช้รักษาผู้ป่วย ดังนั้นความต้องการในการค้นหาการออกแบบที่ง่ายและรวดเร็วกว่าในการผลิตจึงต้องมีต้นทุนต่ำ



นักศึกษาวิจัยรู้ว่า แนวคิดเช่นนี้อาจมีประโยชน์ในประเทศเช่นสหรัฐอเมริกา ในการเผชิญกับวิกฤตสุขภาพเช่นเดียวกับที่กำลังประสบอยู่ตอนนี้ เครื่องช่วยหายใจรุ่นนี้จะมีค่าใช้จ่าย ราว 100 USD (ประมาณ 3,250 บาท)  ในการผลิต  เมื่อเทียบกันกับเครื่องช่วยหายใจหลักล้านที่ใช้กันอยู่ตามโรงพยาบาลในปัจจุบัน

ทีมนักวิจัยตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการออกแบบต้นทุนต่ำ แต่ไม่เคยมีความคืบหน้ากับการผลิตเครื่องช่วยหายใจประเภทนี้  นี่จะเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการในขณะนี้และในเวลาอันสั้น  อุปกรณ์จะมีมอเตอร์ที่บีบอัดวาล์วและหน้ากากโดยอัตโนมัติ ส่วนประกอบบางอย่างคล้ายกับที่ใช้โดยทีมฉุกเฉินในรถพยาบาลเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจ

ทุกวันที่ผ่านไป ผู้ป่วยอาสาสมัครจะเข้ามามีส่วนร่วม ที่ช่วยในการผลิตเครื่องช่วยหายใจ และส่งไปยังโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ MIT เตือนว่าอุปกรณ์ประเภทนี้ควรใช้โดยบุคลากรที่มีคุณสมบัติและการศึกษาทางการแพทย์เฉพาะทางในโรคเหล่านี้เท่านั้น

Source : GizChina
Article By : โลกไอทีวันนี้ 

Comments