MiniReview : DJI Mavic Air 2 โดรนไซส์พกพา แต่มาพร้อมคุณสมบัติจัดเต็ม !!!!

DJI Mavic Air 2 โดรนรุ่นที่สอง ซึ่งมีการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆให้ดียิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์เด็ดที่เราจะขอพาคุณไปทำความรู้จักแบบเบาๆกันในวันนี้

จุดเด่นและคุณสมบัติสำคัญของ DJI Mavic Air 2

- บินเร็วสูงสุด 68 กิโลเมตร/ชั่วโมง

- เพดานบินสูงสุด 500 เมตร

- ระยะบินไกลสูงสุด 10 กิโลเมตร

- เวลาบินสูงสุด 34 นาที

- ภาพถ่ายความละเอียด 48 ล้านพิกเซล

- วิดีโอ 4K @ 60fps

- 8K Hyperlapse

- Smart Photo

- Obstacle Avoidance

Unboxing

ภายในกล่องชุด Combo ประกอบด้วย

- DJI Mavic Air 2 จำนวน 1 ตัว

- ฝาครอบล็อคกล้อง

- แบตเตอรี่สำหรับโดรน จำนวน 3 ก้อน

- รีโมทคอนโทรลพร้อมแกนควบคุมแบบถอดได้

- ใบพัด 6 ชุด (A-B)

- สายเคเบิล Lightning Connector

- ชุดแท่นชาร์จแบตเตอรี่

- กระเป๋าสะพายไหล่

Design

DJI Mavic Air 2 มาพร้อมการออกแบบที่สามารถพับเก็บขาใบพัดได้ทั้ง 4 ด้าน ทำให้สะดวกต่อการพกพา ด้วยกระเป๋า ขนาดของเมื่อพับแล้วจะอยู่ที่180×97×84 มม. และมีน้ำหนัก 570 กรัม ซึ่งถือว่ากำลังดี ไม่มากเกินไปสำหรับโดรนไซส์พกพาครับ

ที่ขาใบพัดแต่ละด้านจะมีสติ๊กเกอร์กำกับ “A” และ “B” เพื่อช่วยให้คุณติดตั้งใบพัดทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง

รีโมทคอนโทรล

มีการปรับดีไซน์ให้ถือจับถนัดมือมากยิ่งขึ้น มาพร้อมขาจับยึดสมาร์ทโฟนเข้ากับด้านบน พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 240 นาที

ข้อมูลทางเทคนิคของกล้อง 48MP

Mavic Air 2 ให้เซ็นเซอร์กล้องขนาด 1/2 นิ้ว, ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ด้วยเทคโนโลยี Quad Bayer ให้รายละเอียดภาพที่สูงและดีกว่าโดรนหลายๆรุ่น

ตัวกล้องเป็นแบบ Gimbal กันสั่น 3 แกน ช่วยให้มีความเสถียรในการถ่ายแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง ก็ยังนิ่งจริงๆครับ

รองรับเทคโนโลยี HDR, Hyper Light ปรับความสว่างภาพ , Smart Photo 5 ประเภท ได้แก่ พระอาทิตย์ตก, ท้องฟ้า, ทุ่งหญ้า, หิมะ และ ต้นไม้

การเชื่อมต่อสื่อสารกับโดรน

DJI Mavic Air 2 ใช้เทคโนโลยีระบบสื่อสารที่เรียกว่าระบบ OcuSync 2.0 รองรับการสื่อสารผ่านคลื่นความถี่สองแบบ คือ 2.4 และ 5.8GHz สามารถบังคับโดรนได้ในระยะไกลสุดถึง 10 กิโลเมตร พร้อมส่งภาพ Live View คมชัดสูงระดับ 1080p (Full HD) มองภาพผ่านจอสมาร์ทโฟนได้แบบชัดๆ

ควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น DJI Fly App

ระบบปฏิบัติการที่รองรับคือ iOS 10.0 และ Android 6.0 ขึ้นไป โดยสามารถดาวน์โหลด DJI Fly Appได้ที่ App Store หรือ Google Play Store

ซึ่งขั้นตอนการเชื่อมต่อในครั้งแรกระหว่างตัวโดรนและแอพก็ไม่ยากครับ สามารถทำตามคำแนะนำได้ง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอน

เพียงคุณนำสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพมาล๊อคกับตัวยึดด้านบน จากนั้นเสียบสาย USB เพื่อใช้เป็นตัวส่งสัญญาณ RC เข้ากับตัวรีโมทคอนโทรล

หลังจากนั้นเมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมาถึงหน้าสำหรับควบคุมการบิน

ปุ่ม Take Off เมื่อกดแล้วจะสั่งให้โดรนลอยขึ้นที่ระยะ 1.2 เมตร

ปุ่ม Landing บังคับการลงจอด ณ จุดนั้นทันที

นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับโหมดการถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวิดีโอต่างๆได้จากแอพนี้ทั้งหมด และยังดูแผนที่การบิน รวมถึงแสดง Warning Zone ในการห้ามบินด้วย

เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง Obstacle Avoidance

Mavic Air 2 มีเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง 3 จุด สำหรับเดินหน้า ถอยหลัง และลงจอด สามารถหยุดบินโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ในทิศทางที่จะไป โดยสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ที่ระยะสูงสุดกว่า 20 เมตร