FullReview : Huawei Watch 3 Series นาฬิกาอัจฉริยะที่พลิกโฉมหน้า Wearable ครั้งใหญ่ของแบรนด์ !!! ด้วยระบบปฎิบัติการ HarmonyOS ทำงานและติดตั้งแอปได้ในตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน พร้อมรองรับ eSim !!!! ในราคาเริ่มต้น 12,990 บาท !!!!!


กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับ Huawei Watch 3 Series สมาร์ทวอชรุ่นล่าสุดจาก Huawei ที่มีการอัพเกรดครั้งใหญ่ ให้ประสบการณ์ที่ต่างจากเดิม เพราะนี่คือครั้งแรกของ ระบบปฎิบัติการ HarmonyOS บนนาฬิกาอัจฉริยะ ที่จะทำอะไรให้คุณได้มากกว่าที่เคย

โดย​ Huawei Watch 3 Series ที่ทางเราได้รับมารีวิวนั้นประกอบด้วย Watch 3 Active และ Watch 3 Pro Classic เราลองไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

- Huawei Watch 3 Series จำนวน​ 1 เรือน
- Wireless Charging​ Adapter จำนวน​ 1 ตัว
- สาย​ USB Type -​ C จำนวน​ 1 เส้น
- Quick Start Guide จำนวน​ 1 เล่ม

สเปค​ Huawei Watch 3 Series


หน้าปัดทรงกลมชนิด​ Amoled ขนาด​ 1.43 นิ้ว​, ความละเอียด​ 466 × 466 พิกเซล​ (326 ppi) , ครอบทับด้วยกระจก​ 3D Glass สำหรับ Watch 3 Active และ กระจกแบนสำหรับ Watch 3 Pro Classic

วัสดุตัวเรือน : Stainless steel และ ceramic สำหรับ Watch 3 Active , Titanium และ ceramic สำหรับ Watch 3 Pro Classic

วัสดุสายนาฬิกา : สาย Fluoroelastomer สำหรับ Watch 3 Active และ สายหนัง สำหรับ Watch 3 Pro Classic

รองรับ​ GPS

รองรับ​ Heart Rate Monitoring

รองรับ SpO2

รองรับ Body Temperature Sensor

รองรับการกันน้ำระดับ​ 5ATM

รองรับ​ Bluetooth 5.2

รองรับ WiFi 2.4 GHz / NFC

แบตเตอรี่​ 450 mAh (Watch 3 Active) และ 750 mAh (Watch 3 Pro Classic)

ระบบปฎิบัติการ​ : HarmonyOS

น้ำหนัก : 54 กรัม (Watch 3 Active) และ 63 กรัม (Watch 3 Pro Classic)

HUAWEI Watch 3  Series โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูที่มาพร้อมประสิทธิภาพอัดแน่น เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น แต่ยังคงมีความแตกต่างในแง่ของดีไซน์และสเปคบางประการ​ โดยจะบอกเล่าให้ทราบกันด้านล่างนี้ครับ

Design

Huawei Watch 3 Series นำเสนอด้วยหน้าปัดนาฬิกาทรงกลมแบบ​ Amoled ขนาด​ 1.43 นิ้ว​ พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอยแบบ​ 3D Glass ที่สามารถวางกระจกแนบชิดกับ​พาแนลของจอได้แบบไม่มีช่องว่าง ซึ่งต้องบอกว่าหน้าจอมีความคมชัดสูงและสีสันสดใสมาก แม้อยู่ในกลางแจ้งก็ยังเห็นได้ดี โดย

Huawei Watch 3 Active


ตัวเรือนใช้วัสดุ Stainless steel และฝาหลังแบบ ceramic น้ำหนักเบา​ ใช้สายรัดแบบ Fluoroelastomer หรือยางซิลิโคน ที่มีความนุ่มและกระชับเมื่อใส่บนข้อมือ

Huawei Watch 3 Pro Classic



ตัวเรือนใช้วัสดุ Titanium และฝาหลังแบบ ceramic เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ใช้สายรัดหนังสีน้ำตาล เพิ่มความหรูหราขึ้นอีกระดับ

ด้านขอบขวาของทั้ง 2 รุ่น จะมีปุ่มเม็ดมะยม​สำหรับควบคุมการใช้งาน​ โดยปุ่มบนเป็นปุ่มกดเข้าเมนู​ หรือ​ กลับสู่หน้า​ Home​ และปุ่มด้านล่างเป็นปุ่มอิสระ​ สามารถตั้งค่าการเข้าถึงแอพหรือเมนูต่างๆแบบ​ Quick Launch ได้

ใต้ปุ่มควบคุมจะเป็นช่องลำโพงสนทนาในตัว​ ใช้สำหรับการคุยโทรศัพท์​, ฟังเพลง​

ส่วนขอบซ้ายจะปล่อยโล่งๆไว้

ด้านหลังตัวเรือนใช้วัสดุเซรามิก​ มีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ​ ซึ่งมีการติดตั้ง​ไว้​ 2 ประเภท​ คือแบบ​ Green Light สสำหรับวัด HR และ​ แบบ​ Infrared สำหรับวัด SpO2 รวมไปถึง Body Temperature

โดยรวมการออกแบบของ​ Huawei Watch​ 3 Series มีการปรับรายละเอียดทางเทคนิคให้ดีมากยิ่งขึ้น​จากรุ่นก่อนๆ ซึ่งทำให้นอกจากจะมีหน้าตาตัวเรือนที่สวยงามแล้ว​ ก็ยังมีลูกเล่นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

Hardware &​ Performance

Huawei Watch 3 มาพร้อมมาตราฐาน Bluetooth 5.2 , มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ , SpO2  , Body Temperature , GPS , WiFi 2.4 GHz  และ ไจโรสโคป มาพร้อมกับไมโครโฟนและลำโพง สำหรับรับสายสนทนาและฟังเพลงได้ในตัว

นาฬิการองรับการออกกำลังกายได้ถึง 100 โหมด และสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ​ 5 ATM  นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการติดตามการออกกำลังกาย ,เทคโนโลยีการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ TruSeen™ 4.5 ที่อัปเกรดใหม่ของ HUAWEI มี LED 6-in-1 และโฟโตไดโอด 4 ตัวเพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น  เลนส์กระจกแซฟไฟร์ช่วยให้แสงส่องผ่านได้ดีขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และสวมใส่ได้สบายยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ อัลกอริธึมขั้นสูงยังให้ความแม่นยำในการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ตรวจจับการนอนหลับด้วย Huawei TruSleep 2.0 และยังสามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นในอัตราต่ำกว่าปกติหรือภาวะหัวใจล้มเหลว


รวมถึงการตรวจจับ Fall Detection ด้วย

ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ของ Huawei ที่เรียกได้ว่าเป็นการปฎิวัติพลิกโฉมครั้งใหญ่ของ Wearable Device ของค่ายเลย

เพราะนอกจากจะเป็นระบบปฎิบัติการที่สามารถทำงานแบบ Stand Alone ได้เต็มรูปแบบแล้ว ยังรองรับการติดตั้งแอพลิเคชั่นได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน AppGallery ซึ่งมันค่อนข้างพิเศษมากๆ และมีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ทำได้

โดยทั้ง Huawei Watch 3 Active และ Watch 3 Pro Classic นั้นนอกจากดีไซน์ภายนอกและแบตเตอรี่แล้ว จะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่เหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นจากจุดนี้ไปจะอธิบายรวมกันนะครับ

วิธีการเชื่อมต่อ​ และ​ Software

Huawei Watch​ 3 Series รองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น​ HUAWEI​ Health ซึ่งจะมีติดตั้งไว้ในสมาร์ทโฟน​ Huawei ทุกรุ่นอยู่แล้ว​ แแต่หากคุณใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน​ Google​ Play​ S​tore มาติดตั้งได้เช่นกัน​ รวมถึงระบบ​ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน​ App Store ได้



โดยเมื่อเข้าแอพ​ Huawei Health แล้วให้ไปที่เมนู​ Devices​ เลือกติดตั้ง​ Smart​ Watch​ และเลือกรุ่น​ Watch​ GT​ 3 Series หรือ กดค้นหาแบบอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน จากนั้นรอเพียงไม่กี่อึดใจก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อแล้ว​ ระบบจะพามาสู่หน้าหลัก​ สำหรับการตั้งค่าทั้งหมด​ดังต่อไปนี้

Watch​ Faces


สำหรับปรับเปลี่ยนหน้าจอ​ โดยมีทั้งแบบสำเร็จรูป​ และแบบ​ Custom ที่เราสามารถนำรูปในสมาร์ทโฟนมาทำเป็นหน้าปัดได้​  พร้อมการตั้งค่ารูปแบบต่างๆในการแสดงผล

Huawei TruSleep





ระบบตรวจสอบการนอนของผู้สวมใส่​ โดยคำนวณจากอัตราการหายใจ , การขยับของกล้ามเนื้อ​ แล้วสามารถวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบในการนอน​พร้อมกับปัญหาที่ควรแก้ไข


อีกทั้งยังสามารถแจงค่าสถิติรูปแบบในการนอนของแต่ละคืนออกมาได้อย่างละเอียด​ ซึ่งถือว่าน่าจะดีที่สุดในตลาดของ​ Smart​Watch​ ตอนนี้

พร้อมด้วยการแนะนำในการแก้ไขปัญหาการนอนเบื้องต้น​ เพื่อเพิ่มคุณภาพในการนอนให้มากกว่าเดิม

ระบบ​ Heart Rate Monitoring

สามารถตั้งค่าวัดหัวใจได้หลายรูปแบบ​ ทั้ง


Smart​ สำหรับตั้งค่าวัดแบบอัตโนมัติ​ โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ​ ณ​ เวลานั้นๆ

Real -​ Time  เป็นการวัดและเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา​ แต่ว่าจะเปลืองแบตเตอรี่

และยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนในกรณีที่อัตราการเต้นของหัวใจ​มีความผิดพลาด​ ไม่ว่าจะเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกิน​ไป​ ต่อเนื่องนานเกิน​ 10 นาที

Stress Test หรือ​ ตรวจจับความเครียด


โดยในการใช้งานครั้งแรกจะเป็นการตอบคำถามสั้น ๆประมาณ​ 12​ ข้อ เพื่อประเมินระดับความเครียดของตัวเรา หลังจากนั้นหากระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งประเมินจากอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นแบบกระทันหัน​ (ยกเว้นตอนออกกำลังกาย)​ จะมีการแจ้งเตือนที่ตัวนาฬิกา และเข้าสู่โหมดการฝึกหายใจ เพื่อช่วยระบายความเครียด​ และปรับสมดุลในร่างกายให้มีสภาพที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา

Automatic SpO2


สำหรับวัดค่าความอิ่มตัวของอ๊อกซิเจนในกระแสเลือด โดยสามารถตั้งให้วัดแบบอัติโนมัติและเเจ้งเตือนเมื่อมีอัตราต่ำกว่า 75% ได้

Skin Temperature measurement

สำหรับเปิดใช้งานการวัดอุณหภูมิผิวหนัง

eSim Management

สำหรับเปิดการใช้งาน eSim

นอกนั้นก็จะเป็นการตั้งค่าอื่นๆ เช่น​ การแจ้งเตือน​ และ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น (Help & Troubleshooting)

การแสดงผลบนตัวเรือนและวิธีการควบคุม

Huawei Watch 3 Series รองรับการสัมผัสหน้าจอเพื่อสั่งงาน มีปุ่มและเม็ดมะยมทำงานร่วมกันอีก​ 2 ปุ่ม

โดยการสัมผัส​เลื่อนหน้าจอ​ไปซ้ายและขวา​ เพื่อเข้าสู่เมนูการทำงานต่างๆ​ ในหน้าแรกจะเป็นหน้า​  Watch​ Face

เมื่อเลื่อนไปทางขวาจะพบกับ

Activity Record

Heart Rate

SpO2

Body Temperature

Custom สำหรับจัดลำดับการแสดงผลเมนูด้านบนตามใจเรา

เมื่อเลื่อนไปทางซ้ายจากหน้า Watch Face จะเป็น weather และ Control Center ซึ่งจะแจ้งสภาพอากาศและหากคุณเปิดเครื่องเล่นเพลง ก็จะสามารถควบคุมจากหน้านี้ได้

เมื่อปัดจากบนลงล่าง​ จะพบกับหน้าการตั้งค่าต่างๆ​ เช่น​ Do​ not  Disturb , Screen On, Find Phone, Alarm และการเข้าสู่เมนูตั้งค่าหลัก

ในหน้าการตั้งค่าหลักนั้นสามารถตั้งค่าได้มากมาย เช่น WiFi , Bluetooth , Mobile Network , NFC , Display , Sound , Notification

และ Down​ Button สำหรับตั้งค่าปุ่มด้านล่างใต้เม็ดมะยมให้เข้าสู่แอปหรือเมนูต่างๆแบบ​ Quick Launch ได้​ โดยจะมีให้เลือกครบทุกเมนู

และเมื่อเรากดเม็ดมะยมจะเป็นการเข้าสู่หน้า App Drawer ซึ่งจะแสดงแอปทั้งหมดที่ถูกติดตั้งไว้ โดยเราสามารถหมุนเม็ดมะยมเพื่อซูมเข้าซูมออกเมนูได้ และยังยังหมุนเพื่อ Scroll การแสดงผลได้อีกด้วย

และเมื่อปัดหน้าจอจากด้านล่างขึ้นบน​ จะเป็นการเรียกหน้าต่าง​ Notifications สำหรับแสดงการเเจ้งเตือนต่างๆที่เกิดขึ้น

การดาวน์โหลดแอปผ่าน​ AppGallery

นี่คือหนึ่งในไฮไลค์สำคัญของ​ Huawei Watch​ 3 Series​ คือการทำสารพัดฟีเจอ​ร์ได้ด้วยตัวเองผ่านการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆใน​ Huawei AppGallery​ ที่มีอยู่ในนาฬิกา

ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่าน​ Bluetooth, WiFi หรือ​ Mobile Data ก็สามารถดาวน์โหลดได้​ โดยแอปในสโตร์ปัจจุบันถือว่ายังมีให้เลือกไม่เยอะมาก​ แต่ก็มีให้ใช้งานได้หลากหลาย​ ส่วนใหญ่จะเป็นแอปฟังวิทยุออนไลน์​


ทีเด็ดคือแอปแผนที่และการนำทาง​ Petal Maps ซึ่งเมื่อเรา​ซิงค์กับแผนที่บนสมาร์ทโฟนจะสามารถย้ายการนำทางให้มาบอกผ่านทาง​ Watch​ 3 ได้


แอป​ Huawei Music ก็สามารถฟังเพลงแบบ​ Streaming​ ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์​ทโฟน (แต่ต้องต่อ​ WiFi หรือ​ Mobile​ Data) 

การโทร/รับสายและสนทนา

Huawei Watch 3 Series มีไมโครโฟนและลำโพงสนทนาในตัว​ ซึ่งสามารถใช้รับสายและสนทนาได้ที่ตัวนาฬิกาเลย​ โดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมา​ 

หรือถ้าหากคุณได้ทำการติดตั้ง eSim อยู่แล้วก็ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก และระดับความดังของลำโพงนั้นถือว่าดีเยี่ยม

แบตเตอรี่และการชาร์จ

แท่นชาร์จที่ให้มาในกล่องเป็นแบบ​ Wireless Charging​ ที่จะดูดติดกับตัวเรือนของ​ HUAWEI​ Watch​ 3 Series แบบอัตโนมัติ​ และชาร์จผ่าน​พอร์ต​ USB Type -​ C

แบตเตอรี่ของ​ Watch​ 3 มีแบตเตอรี่​ 450 mAh (Watch 3 Active) และ Watch 3 Pro Classic มีแบตเตอรี่ 750 mAh ซึ่ง Huawei เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 3 และ 5 วัน ตามลำดับ ซึ่งเมื่อเทียบกับคุณสมบัติและฮาร์ดแวร์ที่อัพเกรดมากขึ้น ก็ถือว่าอยู่ในจุดที่รับได้ครับ

สรุป

Huawei Watch 3 Series เป็น​ Smart​Watch​ ที่มีการปรับปรุงชนิดพลิกโฉมอย่างมากสำหรับ Huawei โดยการมาถึงของระบบปฎิบัติการ HarmonyOS มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาอุปกรณ์ EcoSystem ให้มีความอัจฉริยะและทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้น

ราคาจำหน่าย

HUAWEI WATCH 3 (Active Edition) ราคา 12,990 บาท

HUAWEI WATCH 3 (Classic Edition) ราคา 14,490 บาท

HUAWEI WATCH 3 Pro (Classic Edition) ราคา 21,990 บาท

HUAWEI WATCH 3 Series เปิดจองตั้งแต่วันที่ 14 – 22 กรกฎาคม นี้ โดยมีโปรโมชั่นรับของแถมเป็นสาย HUAWEI Steel Strap และ HUAWEI Music VIP มูลค่ารวม 10,377 บาท

ช่องทางจำหน่าย HUAWEI WATCH 3 Series

Article By : โลกไอทีวันนี้​ 

Comments