FullReview : HONOR X8 | X7 การกลับมาของนวัตกรรมอย่างยิ่งใหญ่และท้าทาย พร้อมด้วย Google Mobile Services (GMS) !!!!!
HONOR X Series สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ HONOR หลังจากที่กลับมาทำตลาดอย่างเป็นทางการในบ้านเราอีกครั้ง พร้อมกับ Google Mobile Services โดยรอบนี้ขอส่ง HONOR X9 , X8 และ X7 มาชิมลางตลาดกันก่อน โดยในวันนี้เราจะรีวิวกัน 2 รุ่น คือ X8 และ X7 จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ลองไปดูกันครับ
สเปค HONOR X8 4G
หน้าจอ IPS LCD แบบ HONOR FullView Display ขนาด 6.7 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ (2388 × 1080 พิกเซล) อัตรารีเฟรช 90 Hz
CPU : Snapdragon 680
GPU : Adreno 610
RAM : 6 GB + RAM Expansion 2 GB
ROM : 128 GB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 4G Dual VoLTE
รองรับ Micro SD Card
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 64 + 5 + 2 + 2 ล้านพิกเซล , f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 รองรับเลนส์ Ultra Wide Lens , Macro Lens และ Depth Sensor
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , f/2.45
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power
รองรับ WiFi AC Dual Band
รองรับ Bluetooth 5.0
รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 4000 mAh + 22.5W HONOR SuperCharge
ระบบปฎิบัติการ : Android 11 + Magic UI 4.2
สี : Titanium Silver , Ocean Blue และ Midnight Black
ราคา : 7,999 บาท
Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย
ตัวเครื่อง HONOR X8
เคสซิลิโคนแบบใส
เข็มจิ้มถาดซิม
สาย USB-C to USB-A
อะแดปเตอร์ชาร์จ 22.5W HONOR SuperCharge
คู่มือ
Design & Display
ต้องบอกว่านี่เป็นหนึ่งในจุดขายของ HONOR X Series รอบนี้ โดยเฉพาะ X8 เลยก็ว่าได้ เพราะมาพร้อมกับสโลแกน “นวัตกรรมที่มาพร้อมดีไซน์” โดยตัวเครื่องที่รีวิวนี้คือสี Titanium Silver วัสดุประกอบตัวเครื่องที่ใช้เป็นเฟรมอลูมิเนียม และ ฝาหลังกระจก ที่มีข้อดีคือน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นจุดเด่นของ HONOR X8 เพราะน้ำหนักเพียง 177 กรัม เท่านั้น
ตัวฝาหลังเป็นแบบผิวด้าน ไม่เกิดรอยนิ้วมือ โดดเด่นด้วยเฉดสีที่เปลี่ยนแปลงยามแสงตกกระทบ
ส่วนกล้องหลังจะอยู่ที่มุมซ้ายบน ในกรอบโมดูลทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ประกอบด้วยกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
HONOR X8 จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ HONOR FullView Display ขนาด 6.7 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตรา Refresh Rate 90 Hz
โดยจุดเด่นคือเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล Mid Range ที่มีขอบจอแคบที่สุดเพียง 1.1 มม.
ทำให้รับชมภาพและคอนเท้นต์ต่างๆได้อย่างเต็มตา ด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.6%
อีกทั้งยังช่วยมีระบบกรองแสงสีฟ้า เพื่อปกป้องดวงตาของคุณอีกด้วย เมื่อทดลองใช้พบว่าให้ความคมชัดที่ค่อนข้างดี รวมไปถึงการแสดงสีที่ค่อนข้างสดใส และยังรองรับโหมดถนอมสายตายามเวลาค่ำคืนด้วย Eye Protection ที่เป็นการตัดสีฟ้าออกไปจากหน้าจอ ซึ่งสามารถปรับระดับการกรองและตั้งเวลาที่เปิด/ปิด ได้ตามต้องการ พร้อมด้วยการรองรับ Dark Mode
ตัวเครื่องมีความบางเฉียบเพียง 7.45 มม.
ขอบด้านซ้ายมีช่องสำหรับถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot
ที่ขอบขวามีปุ่ม Volume Up + Down และ ปุ่ม Power ที่มีเซนเซอร์สแกนนิ้วมือฝังอยู่ภายใน
ที่ขอบล่างมี ช่องหูฟัง 3.5 mm. , ไมโครโฟนสนทนา , พอร์ต USB Type - C และ ลำโพง Speaker ตามลำดับ
ส่วนขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน เพียงอย่างเดียว
Performance
HONOR X8 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 4G แบบ Octa Core ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง ใช้กระบวนการผลิตขนาด 6 นาโนเมตร ซึ่งประหยัดพลังงานมากขึ้น ภายในประกอบด้วย ซีพียูแบบ Octa Core โดยมี Cortex-A73 จำนวน 4 แกน และ Cortex-A55 อีก 4 แกน ความเร็วสูงสุด 2.4 GHz ส่วน GPU ใช้ Adreno 610 ที่มีความเร็วสูงถึง 1.1 GHz และ มีหน่วยประมวลผล AI เป็น Hexagon 686
มาพร้อม RAM 6 GB / ROM 128 GB และยังมีฟีเจอร์ RAM Turbo ที่จะจำลอง RAM ด้วยการเอาหน่วยความจำ ROM มาใช้ได้อีก 2GB เพื่อให้การทำงานต่างๆนั้นราบรื่นมากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถสั่งปิดหรือปรับขนาด RAM Turbo ตามต้องการได้
ทำงานบนระบบปฎิบัติการ Android 11 และ EMUI 4.2 ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่เกือบสุดแล้ว และยังเป็นหน้าตาที่เราคุ้นเคยกันดี ทำคะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench ได้
Single Core : 374 คะแนน
Multi Core : 1547 คะแนน
เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากๆ ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง , ฟังเพลง , เล่นอินเทอร์เน็ต , ถ่ายรูป และการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆของเครื่องได้อย่างไม่ติดขัดใดๆ
Google Mobile Services กลับมาแล้ว
HONOR X Series เครื่องศูนย์ไทย กลับมาพร้อมบริการ Google Mobile Services (GMS) เต็มรูปแบบ พร้อมใช้ทันทีที่เปิดเครื่อง โดยรองรับบริการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นผ่าน Google Play Store พร้อมความปลอดภัยโดย Google Play Protect แบบถูกต้อง
ทีนี้จะ ส่ง Gmail , อัป Drive , ดู Maps , ส่อง YouTube , ท่อง Chrome ก็ทำได้ทันทีที่เปิดเครื่อง หมดปัญหาต้องกังวลครับ
Camera
กล้องหลัง 4 ตัว นั้นประกอบไปด้วย
เลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล , f/1.8
เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.2
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
พร้อมกับระบบ AI Vision ซึ่งสามารถปรับแต่งภาพบุคคลรวมถึงจำแนกฉากได้มากกว่า 500 รูปแบบ ใน 22 หมวด
แน่นอนว่า AI ของค่ายนี้ ยังคงเก่งกาจและเป็นที่น่าไว้ใจได้อยู่เสมอ ในเรื่องของความแม่นยำในการวิเคราะห์ฉากรวมไปถึงความเร็ว
ภาพที่ได้ในตอนกลางวันถือว่าค่อนข้างประทับใจในคุณภาพ ด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล
รวมถึงการถ่าย Portrait Mode ที่มีการเบลอและตัดขอบภาพได้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ
ภาพถ่ายกลางคืนนั้น จะมี Night Mode เข้ามาช่วย แต่ก็ต้องบอกว่ายังไม่ใช่จุดเด่นในรุ่นนี้ครับ ภาพที่ออกมายังพบว่ามี Noise อยู่บ้างเล็กน้อย แต่ภาพรวมก็ถือว่าพอใช้ได้
ด้านภาพถ่าย Ultra Wide ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี มีมุมมองที่กว้างเยอะสะใจถึง 120 องศา และการแก้ Distort ภาพที่ดีพอสมควร แต่เสียดายที่ความละเอียดน้อยไปนิด และ มีอาการแพ้ที่แสงน้อยอยู่พอสมควร
ส่วนเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีระยะโฟกัส 4 cm. แบบ Fix มีคุณภาพทั่วๆไป ไม่โดดเด่นมาก
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหลัก
กล้อง Ultra Wide
กล้อง Macro
Portrait Mode
Night Mode
กล้องหน้า
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , f/2.45 นั้นมี AI ในการช่วยถ่ายภาพด้วยทั้ง Beauty และ Portrait ทำให้ภาพที่ได้ออกมาค่อนข้างเนียนและสวย ถูกใจสาวๆแน่นอน
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
Gaming
ทดสอบด้วยเกมส์ PUBG Mobile สามารถเปิดกราฟิคได้สูงสุดระดับ Balance แต่เปิด Frame rate ที่ระดับ Medium ได้ โดยการเล่นพบว่ามีจังหวะหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ภาพรวมสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีปัญหาและไม่พบว่าตัวเครื่องเกิดความร้อนสะสม เนื่องจากเป็นชิปตัวกลางที่เน้นประหยัดพลังงานครับ
ระบบรักษาความปลอดภัย
มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ยังคงมีประสิทธิภาพให้การทำงานได้รวดเร็วมาก และสามารถใช้ระบบสแกนใบหน้าแบบ Face Unlock ได้ตามปกติ
แบตเตอรี่
มีความจุ 4000 mAh เพียงพอต่อการใช้งาน 1 วันเต็มๆ พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว HONOR 22.5W SuperCharge แบบมีอะแดปเตอร์แถมมาให้ในกล่อง
สรุป
HONOR X8 คือสมาร์ทโฟนระดับ Mid Range ที่คุ้มค่าเกินราคา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Amoled 90 Hz ที่สวยงามและลื่นไหล , ชิปเซ็ต Snapdragon 680 แบบประหยัดพลังงาน , กล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล คมชัดทุกสถานการณ์ และ แบตเตอรี่ 4000 mAh พร้อม 22.5W SuperCharge แลกกับมากับค่าตัวเพียง 7,999 บาท เท่านั้น จัดว่าคุ้มค่าครับ
HONOR X7
อีกหนึ่งน้องสุดท้องของตระกูล X Series ที่ต้องบอกว่ามีความคล้ายคลึงกันหลายประการ แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน โดยมากับราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า ลองไปดูกันครับว่าเป็นอย่างไร
สเปค HONOR X7 4G
หน้าจอ IPS LCD แบบ HONOR FullView Display ขนาด 6.74 นิ้ว , ความละเอียด HD+ (1600 × 720 พิกเซล) อัตรารีเฟรช 90 Hz
CPU : Snapdragon 680
GPU : Adreno 610
RAM : 4 GB + RAM Expansion 2 GB
ROM : 128 GB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 4G Dual VoLTE
รองรับ Micro SD Card
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48 + 5 + 2 + 2 ล้านพิกเซล , f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 รองรับเลนส์ Ultra Wide Lens , Macro Lens และ Depth Sensor
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power
รองรับ WiFi AC Dual Band
รองรับ Bluetooth 5.0
รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 22.5W HONOR SuperCharge
ระบบปฎิบัติการ : Android 11 + Magic UI 4.2
สี : Titanium Silver , Ocean Blue และ Midnight Black
ราคา : 6,299 บาท
Design & Display
HONOR X7 จะให้อารมณ์ที่แตกต่างจาก X8 ด้วยฝาหลังแบบโค้งมนรับกับฝ่ามือ มีโมดูลกล้องหลังแบบวงแหวน Dual Ring ภายในประกอบด้วยกล้อง 4 ตัว ติดตั้งไว้ในกรอบวงกลม 2 วง โดยวางกล้องหลักแยกไว้ในกรอบบน ในขณะที่กล้อง Ultra Wide, Macro และ Depth sensor วางรวมกับไฟแฟลช LED ที่กรอบล่าง
หน้าจอของ HONOR X7 ใช้ HONOR FullView Display ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 90 Hz เหมือนกับ X8 แต่มีการปรับลดความละเอียดลงมา
และจะติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ปุ่ม Power เช่นเดียวกัน
ด้าน Software เหมือนกันเป๊ะๆกับ Android 11 + Magic UI 4.2
ส่วน Hardware ก็เหมือนกัน ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 4G แต่มี RAM น้อยกว่าที่ 4 GB โดยยังคงมีฟีเจอร์ RAM Turbo 2 GB และ ROM 128 GB มาให้เท่ากัน
ทำให้คะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench ได้ใกล้เคียงกันมากที่
Single Core : 378 คะแนน
Multi Core : 1658 คะแนน
ดังนั้นแล้วคุณสมบัติด้านการเล่นเกมจึงแทบไม่แตกต่างกันเลย
Camera
กล้องหลัง 4 ตัว นั้นประกอบไปด้วย
เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล , f/1.8
เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.2
เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
โดยรวมแล้วทั้ง 2 รุ่น มีสเปคกล้องหลังที่คล้ายกันมาก แตกต่างกันที่กล้องหลักเท่านั้น ที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แต่ก็ยังคมชัด ดังนั้นจึงให้ประสบการณ์แบบเดียวกัน เพราะใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นเดียวกัน เลนส์ก็แทบจะชุดเดียวกันเลย
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหลัก
กล้อง Ultra Wide
กล้อง Macro
Portrait Mode
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/2.0 และติดตั้งไว้ในรอยบากทรงหยดน้ำ แม้มีความละเอียดต่ำกว่า แต่ทว่าก็ให้ประสบการณ์ที่แทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
แบตเตอรี่
มีขนาดใหญ่โตกว่าที่ 5000 mAh โดยยังคงรองรับระบบชาร์จเร็ว HONOR 22.5W SuperCharge แบบมีอะแดปเตอร์แถมมาให้ในกล่องเช่นกัน
สรุป
HONOR X7 นั้นยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ประสบการณ์ที่ดีแบบไม่ต่างจากรุ่นพี่อย่าง X8 มากนัก แต่ก็มีจุดที่เห็นชัดคือ หน้าจอความละเอียดลดลงเหลือ HD+ กับดีไซน์ที่มีความโค้งมนกว่า แต่ทว่ามีแบตเตอรี่ใหญ่ 5000 mAh กับราคา 6,299 บาท ก็ยังถือว่าคุ้มค่ามากๆอยู่ดี
HONOR X8 | X7 วางจำหน่ายผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยจะเปิด Pre - Order ตั้งแต่วันที่ 12 - 26 กรกฏาคม และ วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 กรกฏาคม นี้
พิเศษ สำหรับผู้ที่สั่งจองผ่านทางออนไลน์ รับอุปกรณ์เสริมจาก S - Gear และ HONOR Privillage Card มูลค่าสูงสุด 5,499 บาท เมื่อซื้อตั้งแต่วันที่ 12 - 26 กรกฎาคม นี้เท่านั้น
สั่งจองได้แล้วที่ HONOR Official Store บน Lazada, Shopee และ JD Central รวมถึงร้านค้าที่ร่วมรายการบนช่องทางออนไลน์
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment